หลังจากที่ ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการ Easy E-Receipt เพื่อสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศช่วงต้นปี 2567 หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในราชอาณาจักร ตั้งแต่ 1 ม.ค.-15 ก.พ. 2567 ตามจำนวนจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt นั้น ในครั้งนี้ #ThairathMoney จะพาไปดูเงื่อนไขของ Easy E-Receipt กันว่ามีอะไรบ้าง?
3. กรณีการซื้อสินค้าหรือการรับบริการจากผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่ไม่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องมีใบรับตามมาตรา 105 แห่งประมวลรัษฎากรในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) พร้อมต้องระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการด้วย เฉพาะค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการดังต่อไปนี้
4. ค่าซื้อสินค้าและค่าบริการตามข้อ 2 และ 3 เมื่อรวมกันแล้วสามารถหักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท
สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการที่ออกใบกำกับภาษี/ใบรับ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt และ e-Tax Invoice by Email โดยสามารถค้นหาประเภทกิจการ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร และชื่อสถานประกอบการหรือชื่อผู้ประกอบการ คลิกที่นี่
ในกรณีร้านค้าที่เข้าร่วม e-Tax Invoice by Time Stamp สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ ที่นี่ โดยสามารถค้นหา เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 13 หลัก และชื่อผู้ประกอบการ
หรือสามารถสังเกตที่สัญลักษณ์ตามที่กรมสรรพากรกำหนด ซึ่งจะมีคำว่า Easy E-Receipt อยู่นั่นเอง
อ้างอิง thaigov วิธีเช็กร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการ Easy E-Receipt