นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจ ส.อ.ท.โพล (FTI CEO Poll) ภายใต้หัวข้อ “ของขวัญปีใหม่แบบไหนถูกใจภาคอุตสาหกรรม” พบว่า สืบเนื่องจากภาครัฐได้ทยอยออกมาตรการต่างๆเพื่อเป็นของขวัญขึ้นปีใหม่ 2567 ให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ เช่น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำปี 2567 การปรับลดอัตราค่าไฟ มาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลและแก๊สหุงต้ม มาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 3.5 เป็นต้น มาตรการดังกล่าวที่ได้ประกาศออกมาแล้วหรือที่อยู่ระหว่างการพิจารณา มีทั้งที่ภาคเอกชนเห็นด้วย และบางมาตรการก็มีความห่วงกังวลถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น โดยผลสำรวจพบว่าผู้บริหาร ส.อ.ท.ส่วนใหญ่มีความคาดหวังให้รัฐบาลออกมาตรการส่งเสริม เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2567 โดยมีข้อเสนอมาตรการที่ได้รับความสนใจสูงสุดจากผู้บริหารส.อ.ท.ได้แก่
1. มาตรการส่งเสริมเพื่อเพิ่มความต้องการสินค้าอุตสาหกรรม เช่น สินเชื่อพิเศษเพื่อการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เงินอุดหนุนการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อประหยัดค่าไฟและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ฯลฯ
2. การปลดล็อกกฎหมายให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าทุกขนาด โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตโรงงานอุตสาหกรรม (รง.4) เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้า
3.มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงกระบวนการผลิตและจัดการสิ่งแวดล้อม 4.การเร่งตรวจสอบและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นมานาน และฉุดรั้งทำให้ประเทศไทยไม่สามารถเติบโตได้อย่างที่ควรจะเป็น
“ผู้บริหาร ส.อ.ท.ให้คะแนนพึงพอใจกับผลงานของรัฐบาลปีนี้สูงสุด ในเรื่องการกำกับดูแลราคาพลังงานและการออกมาตรการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบด้านพลังงานทั้งการปรับลดค่าไฟ อุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล และลดราคาน้ำมันเบนซิน ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการช่วยลดภาระต้นทุนการผลิตให้ผู้ประกอบการ รักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือนในช่วงที่เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นตัว”
ขณะที่ จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. 216 คน ครอบคลุม 46 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีดังนี้
1. ภาครัฐควรดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับภาคอุตสาหกรรม อันดับที่ 1 ระบุว่า มาตรการส่งเสริมเพื่อเพิ่มความต้องการสินค้าอุตสาหกรรม เช่น 68.5% สินเชื่อพิเศษเพื่อการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เงินอุดหนุนการติดตั้งโซลาร์เซลล์ อันดับ 2 มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรองโดยการให้ส่วนลดค่าที่พัก 60.6% และส่วนลดซื้อสินค้าในจังหวัด อันดับ 3 มาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมให้เอกชนซื้อสินค้า และบริการ 53.7% อันดับ 4 เพิ่มวงเงินในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในการซื้อสินค้าและบริการจาก SME 51.9%
2. ภาครัฐควรบริหารจัดการพลังงานอย่างไร เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับภาคอุตสาหกรรม อันดับที่ 1 ระบุว่า ปลดล็อกกฎหมายให้สามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าทุกขนาด 72.7%โดยไม่ต้องขอใบอนุญาต รง.4 เพื่อลดภาระค่าไฟ อันดับที่ 2 การตั้ง กรอ.พลังงาน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาพลังงานทั้งระบบ 65.3% อันดับที่ 3 ปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) งวดที่ 1/2567 ให้ไม่เกิน 3.99 ต่อหน่วย 62.0% อันดับที่ 4 มาตรการช่วยเหลือลดค่าไฟให้เอสเอ็มอี โดยมีส่วนลดเป็นขั้นบันได 49.5% ตามปริมาณการใช้ไฟฟ้า
3. ภาครัฐควรช่วยเหลือด้านการเงินอย่างไร เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับภาคอุตสาหกรรมอันดับที่ 1 ระบุว่า มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อส่งเสริมการปรับปรุง 68.1% กระบวนการผลิตและจัดการสิ่งแวดล้อม อันดับที่ 2 เสนอให้ ธปท. ปรับลดดอกเบี้ย เพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ 59.3% ให้กับลูกหนี้ อันดับที่ 3 สถาบันการเงินรัฐออกมาตรการส่งเสริมและจูงใจลูกหนี้เอสเอ็มอีที่มีประวัติชำระหนี้ดี 56.9% อันดับที่ 4 ขยายฐานยกเว้นการเก็บภาษีนิติบุคคลจากเอสเอ็มอีจากเดิม 46.8% ไม่เกิน 300,000 บาท เป็นไม่เกิน 1 ล้านบาท.