ปีหน้า เตรียมซื้อบ้านแพงขึ้น 5-10% ราคาที่ดิน-ค่าแรง จ่อปรับ วัสดุก่อสร้าง ขยับขึ้นตามราคาน้ำมัน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ปีหน้า เตรียมซื้อบ้านแพงขึ้น 5-10% ราคาที่ดิน-ค่าแรง จ่อปรับ วัสดุก่อสร้าง ขยับขึ้นตามราคาน้ำมัน

Date Time: 19 ธ.ค. 2566 15:19 น.

Video

เศรษฐกิจไทย เสี่ยงวิกฤติหนักแค่ไหน เมื่อต้องเปลี่ยนนายกฯ | Money Issue

Summary

  • LWS บริษัทวิจัยตลาดอสังหาฯ ชี้ เทรนด์ปีหน้า คนไทยเตรียมซื้อบ้านแพงขึ้น หลังราคาบ้านจ่อปรับ 5-10% แนวโน้มราคาที่ดิน ค่าแรง ขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยเสี่ยง ดอกเบี้ย พร้อมคาดวัสดุก่อสร้าง มีโอกาสขยับตามต้นทุน ทิศทางราคาน้ำมัน

Latest


บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คาดการณ์แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ไทย ปี 2567 ว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย ทำเล กทม.-ปริมณฑล ปีหน้า มีแนวโน้มที่จะเติบโต 5-10% หรือโครงการเปิดใหม่ จำนวน 110,000-115,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 4.97-5.2 แสนล้านบาท

ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์มีแนวโน้มใกล้เคียงกับปี 2566 หรือเติบโตไม่เกิน 5% ขึ้นกับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ความสามารถในการก่อหนี้ของผู้ซื้อ และการพิจารณาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ หากเศรษฐกิจไทยเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 3.5-4% ตามการคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึง สถานการณ์การส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง การลงทุนภาครัฐสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต วงเงิน 5 แสนล้านบาท ที่คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในไตรมาสสองของปี 2567 

ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว การบริโภคภายในประเทศ และการลงทุนของภาคเอกชนยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และราคาพลังงานทรงตัวในระดับที่ไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับไม่เกิน 1.5% จะเป็นตัวขับเคลื่อนภาคอสังหาฯ ให้เติบโตได้ดี 

อย่างไรก็ตาม “ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ” กรรมการผู้จัดการ LWS ยังประเมินว่า ปีหน้า “ราคาที่อยู่อาศัย หรือราคาบ้าน” นั้น มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 5-10% เช่นกัน ผลจากราคาที่ดิน ค่าแรง ราคาวัสดุก่อสร้าง และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยนับเป็นอุปสรรคต่อการโอนกรรมสิทธิ์ให้เติบโตได้ไม่มาก เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งเป็นผลมาจากภาระหนี้ครัวเรือนสูง ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Mortgage Loan) 

4 ปัจจัยเสี่ยงกระทบอสังหาฯ ปี 2567

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 นอกจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยแล้ว ยังมีอีก 4 ปัจจัยเสี่ยงที่กระทบโดยตรงต่อภาคอสังหาฯ ได้แก่

  • อัตราดอกเบี้ย: ที่มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และผู้ซื้อที่อยู่อาศัย ที่ทำให้ต้นทุนในการพัฒนาโครงการและการซื้อที่อยู่อาศัยสูงขึ้นในปี 2567 เทียบกับปี 2566
  • การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบายของรัฐบาลที่ 400 บาทต่อวัน: ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2567 กระทบโดยตรงต่อต้นทุนการดำเนินงานของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น
  • ราคาวัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ตามราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น: ส่งผลให้ต้นทุนในการก่อสร้างและระดับราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นในปี 2567 เทียบกับปี 2566
  • ความเข้มงวดในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน: เป็นปัจจัยที่กระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อในตลาด โดยในปี 2566 มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) ที่ระดับ 60-65% จากยอดการขออนุมัติสินเชื่อ โดยในปี 2567 ธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงมีนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน เนื่องจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูง และสัดส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loans: NPLs) ในกลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยยังคงอยู่ในสัดส่วนที่สูง เมื่อเทียบกับสินเชื่อบุคคลประเภทอื่นๆ จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อที่อยู่อาศัยในตลาด โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่มีระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทต่อหน่วย

Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์