ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดทำประมาณการแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในปี 2567 โดยมีการทำวิจัยเพิ่มเติมในเรื่องผลของโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลในการประมาณการเศรษฐกิจ เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีนัยสำคัญต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ต้องพิจารณา โดยพบว่ามีความท้าทายจากความไม่แน่นอนของโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่าน digital wallet (โครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล) โดยได้มีการนำเสนอคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ใน 2 ฉากทัศน์ (scenarios) คือ กรณีที่รวมและไม่รวมผลของโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่ออธิบายแนวโน้มเศรษฐกิจให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
โดยความคืบหน้าล่าสุดของโครงการรัฐบาลได้แถลงรายละเอียดของโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ได้แก่ 1.กลุ่มเป้าหมายเปลี่ยนจากคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป 56 ล้านคน เป็นผู้มีรายได้น้อยกว่า 70,000 บาทต่อเดือน และมีเงินฝากธนาคารน้อยกว่า 500,000 บาท จำนวน 50 ล้านคน 2.วงเงินโครงการปรับลดลงจาก 5.6 แสนล้านบาท เหลือ 5 แสนล้านบาท 3.จากเดิมที่ใช้จ่ายภายในรัศมี 4 กิโลเมตร เป็นใช้จ่ายภายในพื้นที่อำเภอตามบัตรประชาชน 4.มีสินค้าบางประเภทไม่เข้าข่ายโครงการ เช่น สินค้าออนไลน์ เหล้า บุหรี่ น้ำมัน เชื้อเพลิง หรือใช้เพื่อชำระหนี้ ร้านค้าที่ขึ้นเงินสดได้ต้องอยู่ในระบบภาษี และ 5.แหล่งที่มาของเงินรัฐบาลจะจัดทำเป็นพระราชบัญญัติเพื่อกู้เงินโดยผ่านการพิจารณาของรัฐสภา
จากการทำวิจัย กนง.ประเมินว่า กระบวนการของ พ.ร.บ.กู้เงิน จะต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ทำให้โครงการชะลอไปจากเดิม และคาดว่าผลดีของโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลจะลงสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลัง ปี 67 จากเดิมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี นอกจากนั้น การประเมินผลต่อเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับขนาดวงเงินของโครงการและเวลาที่เริ่มโครงการด้วย โดยแรงกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีมากในช่วงเริ่มต้น และมีผลชั่วคราว ทำให้ผลของโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลต่อเศรษฐกิจในประมาณการรอบล่าสุดของ ธปท. จึงปรับลดลงจากประมาณการรอบก่อนหน้า โดยผลต่างของการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 67 จากการมีโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือไม่มี อยู่ที่ 0.6 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) แต่อย่างไรก็ตาม รายละเอียดและระยะเวลาเริ่มต้นของโครงการยังมีความไม่แน่นอนสูง ผลต่อประมาณการจึงอาจปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต ทำให้ประมาณการล่าสุดในรายงานนโยบายการเงิน ไตรมาสที่ 4 ปี 66 พบว่า กรณีที่รวมผลของโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล ปี 67 เศรษฐกิจจะขยายตัว 3.8% ก่อนที่ชะลอลงจะช่วยเศรษฐกิจในปี 68 ขยายตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.8%.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่