นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “อนาคตเศรษฐกิจไทย” โดยมีคณะผู้บริหารสถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์ ผู้บริหารคณะรัฐประศาสนศาสตร์ ผู้บริหารและคณาจารย์หลักสูตรวิทยาการจัดการสำหรับนักบริหารระดับสูง (วบส.) เข้าร่วมรับฟัง โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่ง ว่า งานนี้ชื่อว่า อนาคตเศรษฐกิจไทย อยากจะขอเติมต่อท้ายว่า ที่จับต้องได้
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าจะไปญี่ปุ่นไปเจอบริษัทชั้นนำหลายบริษัททั่วโลกที่อยู่ที่ญี่ปุ่น รัฐบาลญี่ปุ่นเรียกร้องว่าไทยโปรโมตรถยนต์ไฟฟ้าอีวีมากเกินไป แต่เป็นเทรนด์ของโลก เป็นเรื่องที่เราต้องทำ ผมจึงบอกนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นว่าลืมเรื่องอีวีไป ผมจะทำก็เรื่องของผม คุณอยากได้อะไรก็บอกมา เราไม่เคยลืมต้นน้ำ ใครรักเรา ใครดีต่อเรา เราจะไม่ลืม บอกนายกฯญี่ปุ่นไปอย่างนี้
นายเศรษฐากล่าวว่า มีการเจรจากันเยอะว่าเราจะช่วยการประกอบรถสันดาปอย่างไร ทั้งมาตรการภาษี มองแล้วว่ารถสันดาปจะยังอยู่ในโลกนี้ไป 10-15 ปีต่อไป อีวียังไม่ครองโลก จะเป็นไปได้ไหมถ้าจะย้ายฐานผลิตจากทั่วทุกภูมิภาค มาประกอบที่เมืองไทย แต่ห้ามขายที่เมืองไทย เพราะจะทำให้เรื่องของเน็ตซีโร่ และคาร์บอนเครดิตเป็นปัญหา ประกอบที่นี่ไปขายที่อื่น สัปดาห์หน้าไปญี่ปุ่นก็ถือว่าจะได้เซ็นสัญญากัน
“คำว่าควิกวิน เป็นการสร้างรายได้ระยะสั้นให้ประชาชนไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่มีมาตรการหลายอย่าง ทั้งวีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวจีน แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันที่พารากอน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนลดลง ก็หากลุ่มใหม่ทดแทน การท่องเที่ยวเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ในระยะยาวก็จะสนับสนุนเรื่องเมืองรอง น่าเสียดายที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังไม่ให้ความสำคัญสักเท่าไหร่ จึงเรียกไปสั่งการว่าให้ทำตรงนี้เยอะขึ้น”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แผนงานระยะกลางและยาว ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติก่อนมีโควิดมี 42 ล้านคน ปีนี้จะได้ 27 ล้านคน เหนือสิ่งอื่นใดไม่จำเป็นต้องถึง 42 ล้านคน เอาคนน้อยหน่อย แต่ว่ามาอยู่นานดีกว่า เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น อย่างเวลาเราไปฝรั่งเศส อิตาลี สเปนก็อยู่กัน 7-12 วัน ขณะที่เมืองไทยประมาณ 3 วันขึ้นเท่านั้นถือว่าน้อยมาก เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะพยายามทำให้ระยะกลางและยาวดีขึ้น มีวิธีการหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ในการเมืองก็ไปพูดจาด้อยค่ากันต่างๆนานา เทศกาลสงกรานต์ก็เพิ่งได้รับจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ปีหน้าจะทำเฉลิมฉลองกันทั้งเดือน ไม่ใช่ว่าจะให้สาดน้ำกันทั้งเดือน เชื่อว่าคนที่มีสติดีจะทราบว่าฉลองกันทั้งเดือนคืออะไร
“มวยไทยถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีคำว่าไทยอยู่ ประเทศอังกฤษมีค่ายมวยไทยอยู่ 6,000 ค่าย กางเกงมวยอย่างเดียวถ้าหากทำให้ดี ทำให้สวย ทำให้ขายดี จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ให้คนมาฝึกเรียนมวยไทย นักกีฬา ดารา นักร้องที่มาเมืองไทย ก็มาฝึกเรียนมวยไทยที่ภูเก็ต เชื่อว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะกลางและยาวได้”
นายเศรษฐากล่าวว่า ปัจจุบันประเทศคู่แข่งเราอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ เขาแย่งนักลงทุนไปไม่ว่าจะกูเกิล ไมโครซอฟท์ พลังงานสีเขียวถือเป็นหลักธรรมภิบาลสำคัญในเรื่องพลังงานของบริษัทใหญ่ ที่ไปเยือนประเทศลาว พูดกันก็คือลาวจะขอฝากขายไฟฟ้าสีเขียวให้กับสิงคโปร์ที่อยากซื้อเพิ่ม “ถ้าให้เราขายให้สิงคโปร์ บริษัทที่ลงทุนในสิงคโปร์ก็อาจจะคาดหวังว่าสิงคโปร์จะได้พลังงานสีเขียวจากลาวได้ ก็จะเป็นคู่แข่งของไทย ผมสะสมประสบการณ์มาตลอด 30 ปีในการทำธุรกิจ บอกไปตรงๆเลยว่าผมไม่ขาย แต่ผมจะซื้อของคุณ เพราะไม่อยากให้สิงคโปร์ได้ไป ก็จะไปแย่งแหล่งลงทุนของไทย อันนี้เป็นความที่เราต้องโหด ต้องพูดจาตรงไปตรงมา การเจรจาต้องชัดเจนว่าอันไหนทำได้ ทำไม่ได้”
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ตามที่จะเสนอ พ.ร.บ.กู้เงิน ที่บางคนไม่เห็นด้วย ซึ่งในส่วน 100,000 ล้านบาท จะนำไปใส่กองทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อดึงการลงทุนในธุรกิจไมโครชิปมาลงทุนในไทย การจะเชิญนักลงทุนเข้ามาต้องมีหลายรูปแบบ เช่น การให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินที่มูลค่าที่ต้องสนับสนุน 30-50% ของมูลค่าการลงทุนด้วย.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่