คนแห่ใช้สิทธิซื้อ “อีวี” ในประเทศ 7.4 หมื่นคันปีนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ยอดการจ่ายเงินอุดหนุนตามมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในประเทศ ตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบันมียอดอยู่ที่ 3,900 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้จะมียอดอุดหนุนอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท ส่วนจำนวนอีวีที่ได้รับการชดเชยไปแล้วอยู่ที่ 67,000 คัน ขณะนี้ยังเหลือจำนวนที่เตรียมเข้าร่วมมาตรการอีก 7,000 คัน ส่งผลให้ยอดรวมอีวีอยู่ที่ 74,000 คัน และปีหน้ากรมสรรพสามิตได้ขอรับการจัดสรรงบเพื่อดำเนินการมาตรการไว้ 17,000 ล้านบาท เป็นวงเงินตามกรอบที่รัฐบาลชุดก่อนได้อนุมัติไว้ 40,000 ล้านบาท ทำให้ในปีหน้า ที่ขอเงินสนับสนุน 17,000 ล้านบาท จะทำให้ปี 2568 เหลือวงเงินสนับสนุนอีก 20,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าเพียงพอต่อการอุดหนุน ให้มีการใช้อีวีเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นตามคาดการณ์ เพราะช่วงแรกประชาชนจะสนใจซื้ออีวีจำนวนน้อย แต่หลังจากปีที่ 2-3 เป็นต้นไป ประชาชนจะสนใจและเลือกซื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ตามแผนการส่งเสริมการใช้อีวีในประเทศช่วงเริ่มต้นโครงการในช่วง 2 ปีแรก ได้เปิดให้ค่ายรถยนต์นำเข้าอีวีได้ทั้งคัน และปีที่ 3-4 จะเป็นอีวีที่ผลิตในประเทศไทย

สำหรับมาตรการส่งเสริมอีวี นอกจากจะสนับสนุนด้านภาษีแล้ว รัฐบาลยังให้เงินส่วนลดตั้งแต่ 70,000-150,000 บาทต่อคัน ให้กับบริษัทรถยนต์ที่ทำสัญญาเข้าร่วมโครงการกับกรม ไปจัดทำโปรโมชันส่งเสริมการขาย โดยบริษัทต้องสำแดงหลักฐานการซื้อขาย และเปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็นป้ายขาว เมื่อตรวจสอบแล้วว่าปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดแล้ว กรมจะคืนเงินให้ ส่วนมาตรการ EV 3.5 รัฐบาลให้เงินอุดหนุนอีวี, รถกระบะไฟฟ้า, รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ตามประเภทของรถ และขนาดของแบตเตอรี่ตั้งแต่ 50,000-100,000 บาท.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่