Quick Win เสริมแกร่ง SMEs เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

Quick Win เสริมแกร่ง SMEs เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

Date Time: 7 ธ.ค. 2566 06:30 น.

Summary

  • “เศรษฐกิจไทยตกอยู่ในอาการป่วย แต่ยังไม่ตาย หากไม่ได้รับการแก้ไขจะเข้าขั้นวิกฤติ” เป็นคำยืนยันจากคุณบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economic บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย

Latest

ฟื้นเฟสใหม่ “เราเที่ยวด้วยกัน” “สรวงศ์” สั่ง ททท.ชงโครงการเสนอนายกฯอิ๊งค์

“เศรษฐกิจไทยตกอยู่ในอาการป่วย แต่ยังไม่ตาย หากไม่ได้รับการแก้ไขจะเข้าขั้นวิกฤติ” เป็นคำยืนยันจากคุณบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economic บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย

หลังเป็นข้อถกเถียงระหว่างฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ที่พยายามตอกย้ำว่าเศรษฐกิจไทยวิกฤติหนัก ต้องได้รับการอัดฉีดจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ใช้วงเงินรวมกว่า 5 แสนล้านบาท ขณะที่พรรคฝ่ายค้านและนักเศรษฐศาสตร์มองว่ายังไม่วิกฤติถึงขั้นนั้น ควรนำเงินจำนวนมหาศาลนี้ไปใช้สร้างคน สร้างงาน สร้างรายได้มากกว่า

คุณบุรินทร์ยังสำทับอีกว่า เห็นถึงปัญหา และได้รับการเตือนเพื่อรับมือมานาน แต่ไม่ได้มีการแก้ไขอย่างจริงจัง กระทั่งปัจจุบันเครื่องจักร เศรษฐกิจพัง ทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ไม่ฟื้นตัว ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวในอัตราต่ำ “นโยบายในการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างไม่ค่อยได้เข้าไปแก้หรือแตะ เพราะไม่เห็นผลทันที เช่น นโยบายด้านการศึกษา ทำวันนี้จะเห็นผลใน 15-20 ปีข้างหน้า ฉะนั้นก็จะไม่มีใครทำ”

ชัดเจนมั้ยครับ ท่านนายกฯและรัฐบาล ที่กำลังเร่งรังสรรค์ผลงานใช้เงินหว่านกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Helicopter money ซึ่งประโยชน์โพดผลล้วนแต่ตกไปอยู่กับทุนใหญ่ ถ้าอยากจะให้ นโยบายควิกวิน (Quick Win) สำเร็จตามมอตโต้ที่พรรคเพื่อไทยหาเสียง “เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส” ก็ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ ช่วยให้เศรษฐกิจฐานรากอย่างกลุ่มธุรกิจ SMEs แข็งแกร่ง กลายเป็นเครื่องยนต์หนุนทางเศรษฐกิจอีกตัวหนึ่ง

ซึ่ง คุณนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ที่กำกับดูแลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้มอบภารกิจ Quick Win 3 ด้าน นำร่องไปก่อนหน้านี้ คือ 1.จัดงานแสดงสินค้าและบริการให้กลุ่มธุรกิจ SMEs สร้างโอกาสทางการค้า สร้างความรู้ในการทำธุรกิจพร้อมสนับสนุนแหล่งเงินทุนให้ธุรกิจมีสายพานเดินต่อไปได้ กำหนดจัดงานต้นปี 2567 ทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาคเร่งภาคการค้าของ SMEs สร้างมูลค่าการตลาดให้ได้ 40% ของจีดีพี ภายในปี 2570

มุ่งเน้นส่งเสริมพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ จัดโครงการแฟรนไชส์สร้างอาชีพ Roadshow 2024 พาแฟรนไชส์ที่ผ่านการพัฒนาแล้วไปออกงานพบปะลูกค้า รวมถึงการขายแฟรนไชส์ในราคาพิเศษแก่ผู้ที่ต้องการสร้างงาน สร้างอาชีพ จะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปพร้อมกันทั่วประเทศ และผลักดันผู้ที่สนใจทำธุรกิจ สามารถเข้าถึงระบบ DBDs e-Learning เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ธุรกิจ และเพื่อนคู่คิดให้กับ SMEs พัฒนาทักษะอย่างมืออาชีพ

2.พัฒนาเทคโนโลยีระบบจดทะเบียนนิติบุคคล เร่งรัดเปิดให้บริการระบบจดทะเบียนบริษัทมหาชนฯ ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-PCL ที่สมบูรณ์ทั้งระบบ ช่วยลดต้นทุนของธุรกิจได้ 100% ส่วนการรองรับการให้บริการข้อมูลดิจิทัลในอนาคต ต้องวางแผนพัฒนาระบบ e-Form เพื่อให้บริการออนไลน์ต่อเนื่อง จะทำให้การดำเนินธุรกิจมีความรวดเร็วมากขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นการอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจและประชาชนที่ใช้บริการ

3.ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมของหอการค้า เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายเป็นการลดต้นทุนทางธุรกิจ รวมถึงประชาชนไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมในการขอตรวจ คัด หรือรับรองเอกสารอีกต่อไป

เมื่อเร็วๆนี้ คุณนภินทรเพิ่งเปิดตัวแพลตฟอร์ม ITD Expert Anywhere จัดทำโดยสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD เพื่อเติมโอกาส Knowledge Token ให้คำปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการ SMEs เพื่อการส่งออก เสมือนที่ปรึกษาส่วนตัวให้กับผู้ประกอบการ สามารถขอรับคำปรึกษาได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ตอบโจทย์ทุกปัญหาของผู้ประกอบการ และวันที่ 13 ธ.ค. จะมีการแถลงข่าวนโยบายภาพรวมใหญ่ในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจ SMEs คงจะมีรายละเอียดที่เห็นชัดเจนขึ้น ที่สำคัญหวังว่ารัฐบาลภายใต้การนำของคุณเศรษฐา จะช่วยเหลือขับเคลื่อนภาคธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็กจริงจังขึ้น.

เพลิงสุริยะ

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ