ภาคเอกชนการท่องเที่ยวพัทยาตื่นตัว ลบภาพลักษณ์เมืองขายเซ็กซ์

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี นายกสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวชลบุรี เปิดเผยว่า ภารกิจแรกหลังได้รับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวชลบุรีคนแรก คือจะเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในพัทยา ร่วมมือกันปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของพัทยา จ.ชลบุรี ใหม่ เพื่อลบภาพเรื่องของผู้หญิงขายเซ็กซ์ บาร์เบียร์ โดยข้อเสนอนี้ไม่ได้เป็นการทุบหม้อข้าวตัวเอง แต่เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เปลี่ยนไป ขณะเดียวกันถ้าพัทยาไม่เปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ มีแต่รายได้จากการท่องเที่ยวของพัทยาจะน้อยลงไปเรื่อยๆ

“สมัยก่อนนักท่องเที่ยวอังกฤษ เยอรมัน ยุโรป 80% มาพัทยาเพื่อเที่ยวบาร์เบียร์ กลุ่มนี้ล้มหายตายจากไปพอสมควร นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่พฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่เที่ยวบาร์เบียร์แล้ว ยิ่งช่วงหลังโควิด ธุรกิจบาร์เบียร์เจ๊งไปเยอะ มาตอนนี้พื้นที่ชายหาดพัทยาถือเป็นทำเลทอง มีการขึ้นค่าเช่าจนทำให้บาร์เบียร์อยู่กันลำบาก ขณะที่นักท่องเที่ยวรัสเซียซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่มาเที่ยวพัทยาตอนนี้นิยมมาเป็นครอบครัว ปัญหาที่ได้คุยกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวของรัสเซียบอกว่า ภาพลักษณ์ของพัทยาไม่ค่อยตอบสนองลูกค้าของเขา คนติดภาพการเป็นที่เที่ยวกลางคืน และผู้ชายต้องมาคนเดียว กลุ่มครอบครัวจึงมีการปรับเส้นทางไปเที่ยวภูเก็ตแทน ทั้งๆที่ตอนนี้พัทยาเปลี่ยนไปเยอะแล้ว”

นายธเนศ กล่าวต่อว่า พัทยามาถึงจุดที่ต้องแก้ไขจึงต้องมาคุยกัน ตั้งใจให้มีการทำเวิร์กช็อปเอเย่นต์ทัวร์รายใหญ่ 5-6 ราย เพื่อให้ร่วมกันมองว่าชลบุรีและพัทยาเป็นอย่างไร ปัญหาคืออะไร การได้รับความนิยมน้อยลงเพราะอะไร และอยากให้ทำอะไรเพิ่ม คงต้องถามความต้องการเป็นรายประเทศไม่ว่าจะเป็น จีน เกาหลี รัสเซีย อินเดีย อังกฤษ เยอรมัน เพราะตอนนี้พัทยามีสิ่งอำนวยความสะดวก มีแหล่งท่องเที่ยวรองรับกลุ่มหลากหลายมากขึ้น 10 ปีที่ผ่านมาพัทยาเปลี่ยนไปเยอะ มีทั้งกีฬาและอีเวนต์ใหญ่ และโรงแรมใหญ่หลายแห่งมีสวนน้ำและสปา เพื่อรองรับกลุ่มครอบครัว มีแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เช่น ชุมชนชากแง้วและชุมชนตะเคียนเตี้ย แต่คนทั่วโลกยังติดภาพลักษณ์เดิมๆ

นายกสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวชลบุรี กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลที่จะให้เปิดสถานประกอบการถึงตี 4 ว่า พัทยาควรกำหนดโซนนิงของสถานบันเทิง ที่จะเปิดได้ถึงตี 4 ใหม่เพื่อให้ทุกคนยอมรับได้ เนื่องจากพื้นที่ที่พูดคุยกัน ปัจจุบันคือถนนติดชายหาดยาวไปจนถึงวอล์กกิ้งสตรีท ให้เหลือเฉพาะพื้นที่วอล์กกิ้งสตรีท เพราะผู้ประกอบการหลักๆอยู่บนวอล์กกิ้งสตรีท ส่วนพื้นที่ถนนติดชายหาดจะปะปนกับโรงแรม คอนโดมิเนียม บ้านเรือน จึงถูกมองว่าจะมีเสียงดังรบกวน หรือถ้าให้ดีให้จัดพื้นที่ใหม่ออกไปนอกตัวเมือง ให้สิทธิพิเศษ เพื่อให้เป็นแหล่งรวมสถานบันเทิงที่ให้บริการได้จนถึงเวลาตี 4 ส่วนสถานการณ์ท่องเที่ยวพัทยาปัจจุบัน ถ้าเทียบกับช่วงก่อนโควิด ถือว่าฟื้นกลับมาได้แล้ว 70% ในกลุ่มโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ส่วนโรงแรมที่เคยรับทัวร์จีน 100% ยังไม่กลับมาเปิด เพราะมีหลายปัจจัยลบที่ทำให้ตลาดจีนยังไม่กลับมา ขณะที่ต่างชาติที่มาพัทยา ได้แก่ อินเดีย เกาหลี รัสเซีย สหภาพยุโรป.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่