นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ในเดือน ธ.ค.นี้ กระทรวงแรงงานจะประกาศการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำรอบใหม่ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับแรงงานทั่วประเทศไทย แต่คงไม่ถึงวันละ 400 บาท ตามที่นายกรัฐมนตรีเคยประกาศไว้ เพราะเมื่อพิจารณาข้อมูลเบื้องต้นโดยนำเงินเฟ้อและอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจมาประกอบกัน พร้อมทั้งการเดินสายรับฟังความคิดเห็นของนายจ้าง และลูกจ้าง การปรับขึ้นค่าจ้างรอบนี้แต่ละจังหวัดจะปรับขึ้นไม่เท่ากัน โดยปรับสูงสุดคือหลักสิบเท่านั้น
“การปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำรอบนี้ แม้จะไม่เพิ่มถึงวันละ 400 บาท แต่ก็เป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ใช้แรงงาน ขณะเดียวกันยังช่วยให้นายจ้างไม่ได้รับผลกระทบหนักมากจากการขึ้นค่าแรงดังกล่าวนัก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง หรือเอสเอ็มอี ที่มีจำนวนมาก อาจต้องปลดแรงงานลงหากปรับขึ้นค่าจ้างขึ้นไปสูงถึงวันละ 400 บาท แต่การปรับขึ้นค่าจ้างงวดต่อไปในช่วงสิ้นปี 2567 อาจจะเห็นค่าจ้าง 400 บาทได้ แต่ก็เป็นการขึ้นเพียงบางจังหวัดเท่านั้น”
สำหรับปัจจุบัน จังหวัดที่มีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสูงที่สุดในประเทศไทย มีอยู่ด้วยกัน 3 จังหวัด ประกอบด้วย ระยอง, ชลบุรี และภูเก็ต โดยมีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่วันละ 354 บาท รองลงมาคือ ค่าจ้าง 353 บาท มี 6 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, นครปฐม, ปทุมธานี, สมุทรปราการ และสมุทรสาคร เป็นต้น
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เพื่อให้ได้ตัวเลขที่แท้จริงและเป็นธรรมก่อนจะมีการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง หรือไตรภาคี ที่มีตัวแทนนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาลนั้น ล่าสุดได้สั่งการไปยังแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด ให้ทำการลงพื้นที่สำรวจข้อมูลการจ้างงานในกิจการต่างๆในจังหวัด ทั้งขนาดเล็ก กลางและใหญ่
อย่างไรก็ตาม ในความคืบหน้าล่าสุดของการพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ประจำปี 2566 นั้น กระทรวงแรงงานได้ประชุมเพื่อทบทวนความเหมาะสมของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละจังหวัดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันแล้ว โดยแต่ละจังหวัดจะพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้เสร็จภายในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ก่อนส่งผลประชุมมายังคณะกรรมการค่าจ้าง เพื่อพิจารณาในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ ก่อนพิจารณาเห็นชอบอัตราค่าจ้างรอบใหม่ เสนอต่อที่ประชุม ครม. และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่