นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่า คนไทยยังให้ความสำคัญและใส่ใจการออมเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาขึ้น ทำให้ภาพรวมการออม โดยเฉพาะการฝากเงินกับธนาคารมีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยธนาคารออมสินยังคงเดินหน้าบทบาทภารกิจส่งเสริมการออม และการให้ความรู้ทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าขยายผลสร้างความเข้าใจให้ประชาชนออมอย่างมีเป้าหมาย รวมถึงออกผลิตภัณฑ์ช่วยสนับสนุนให้เกิดการออมระยะยาวเพื่อเตรียมความพร้อมก้าวสู่วัยเกษียณอย่างมีคุณภาพ
ปัจจุบันยอดเงินฝากของธนาคารอยู่ที่ 2.6 ล้านล้านบาท แบ่งยอดเงิน 1.2 ล้านล้านบาท เป็นเงินฝากประเภทสลากออมสิน เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของธนาคาร ซึ่งนอกจากเป็นการส่งเสริมการออมแล้ว ผู้ซื้อสลากยังได้ลุ้นรับรางวัลอีกด้วย และในส่วนที่เหลือก็จะเป็นเงินฝากประเภทออมทรัพย์ หรือที่ออมสินเรียกว่าเงินฝากเผื่อเรียกอยู่ในสัดส่วน 20% ของยอดเงินฝากรวม และเงินฝากประจำ
นายวิทัย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ธนาคารออมสินได้ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เตรียมออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่กลับมาจากประเทศอิสราเอลให้นำเงินก้อนนี้ไปใช้หนี้หรือกู้เพื่อใช้จ่ายในด้านต่างๆ ซึ่งธนาคารกำลังเร่งทำโครงการนี้ออกมาโดยเร็ว ซึ่งจะช่วยทำให้ประชาชนที่เดินทางกลับมาจากอิสราเอลได้รับโอกาสทางการเงิน โดยโครงการนี้เป็นนโยบายรัฐบาลที่ได้สั่งการให้ดำเนินการ โดยเบื้องต้นสินเชื่อดังกล่าวจะให้วงเงินสูงสุดต่อรายอยู่ 150,000 บาท แต่ละรายที่ให้กู้ จะพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับที่ต่ำ ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระ การกู้ ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน หรือหลักประกัน ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้าหรือต้นเดือน พ.ย.66 นี้.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่