น้ำตาลทรายขาดตลาดบานปลาย ราคาขายหน้าโรงงานขยับ กก.ละ 4-5 บาท

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

น้ำตาลทรายขาดตลาดบานปลาย ราคาขายหน้าโรงงานขยับ กก.ละ 4-5 บาท

Date Time: 27 ต.ค. 2566 06:15 น.

Summary

  • ปัญหาน้ำตาลทรายขาดตลาดบานปลาย ดันราคาขึ้นจาก กก.ละ 24–25 บาท เป็น 26–27 บาท ชาวบ้านโวยหาซื้อยาก ร้านขนม เบเกอรีเดือดร้อนหนัก ขณะที่โรงงานน้ำตาลขยับราคาขายหน้าโรงงานเป็น กก.ละ 4–5 บาท จี้ สอน.รีบออกประกาศขึ้นราคาน้ำตาลอย่างเป็นทางการ หวั่นผลเสียตกกับชาวไร่

Latest

ทอท. ลงทุนเต็มพิกัด 10 ปี 2 แสนล้านบาท เที่ยวบินอินเตอร์ฟื้นตัวเกิน 100%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่มีข่าวคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เตรียมประกาศขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานกิโลกรัม (กก.) ละ 4 บาท ล่าสุดจากการสำรวจตามร้านโชห่วย ร้านค้าสะดวกซื้อ ไม่มีน้ำตาลทรายวางจำหน่ายแล้วหลายแห่ง ทำให้ชาวบ้าน ร้านอาหาร ร้านขนมหวาน เบเกอรี ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถหาซื้อได้ หรือหากซื้อได้ก็มีราคาแพงกว่าเดิม โดยร้านบางแห่งขายถึง กก.ละ 26-27 บาท จากก่อนหน้านี้ราคาขายอยู่ที่ กก.ละ 24-25 บาท โดยสาเหตุที่น้ำตาลทรายหายไปจากชั้นวาง เป็นเพราะประชาชนแห่ซื้อมากขึ้น เพราะเกรงจะขึ้นราคา และอีกสาเหตุบางร้านนำออกมาวางขายน้อยลง เพื่อเก็บไว้ขายในช่วงที่ราคาปรับขึ้นแล้ว

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำตาลทรายตึงตัว และราคาแพง เริ่มเป็นมา 2-3 เดือนแล้ว หลังจากราคาน้ำตาลตลาดโลกพุ่งสูงต่อเนื่อง จากอินเดียห้ามส่งออกน้ำตาลทราย ทำให้ผู้ผลิตน้ำตาลในประเทศหันไปส่งออก เพราะได้ราคาดีกว่า อย่างไรก็ตาม น้ำตาลทรายไม่ถึงกับขาดตลาด หรือหาซื้อไม่ได้ แต่ต้องยอมจ่ายแพงขึ้น เช่น กระสอบละ 50 กก. ก็ปรับขึ้นราคาแล้วหลายครั้ง ครั้งละ 20-30 บาท จนปัจจุบันขึ้นมาเกิน 100 บาทแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม จากกลุ่ม 57 โรงงานน้ำตาลทรายว่า ขณะนี้โรงงานน้ำตาลหลายๆแห่ง ได้ปรับราคาน้ำตาลทรายที่จำหน่ายหน้าโรงงานไปแล้ว 4-5 บาทต่อ กก. เนื่องจากราคาตลาดโลก บวกพรีเมียม (กำไร) ที่คิดกลับเป็นเงินไทยที่อ่อนค่า ทำให้ราคาขยับไปสู่ระดับ 27-28 บาทต่อ กก.แล้ว กลุ่มโรงงานจึงได้แจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ว่า ถึงเวลาที่ต้องมีการออกประกาศ สอน.เรื่องการปรับขึ้นราคาน้ำตาลหน้าโรงงานตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริง เพื่อนำมาคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2566/67 ในเดือน พ.ย.นี้ เพื่อให้เป็นผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับชาวไร่อ้อย ในการนำมาคำนวณราคาขั้นต้น 25 ล้านกระสอบให้เป็นรายได้ของชาวไร่อ้อย
ทั้งนี้ ราคาน้ำตาลทรายที่จำหน่ายในประเทศ ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์เพราะเป็นนโยบายน้ำตาลทรายเสรี ที่ผ่านมาโรงงานพยายามรักษาระดับราคาไม่ให้สูงผิดปกติ แต่หาก สอน.ยังยื้อประกาศการปรับขึ้นราคา แม้ว่าราคาได้ปรับขึ้นไปแล้ว ผลเสียจะตกกับชาวไร่อ้อยที่จะได้รับเงินที่จะคำนวณออกมาเป็นรายได้จากการขายอ้อยขั้นต้นให้กับโรงงาน และหากโรงงานไม่ขึ้นราคาน้ำตาลทราย ปริมาณน้ำตาลทรายที่มีจำหน่ายในประเทศ ก็อาจจะไหลออกไปจำหน่ายนอกประเทศเพิ่มขึ้น

ล่าสุด สอน.ได้หารือกับโรงงานน้ำตาลทรายและชาวไร่อ้อยในการพิจารณาแนวทางการสนับสนุนการตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ที่ชาวไร่ต้องการวงเงินสนับสนุน 120 บาท/ตัน หรือคิดเป็นเงิน 8,000 ล้านบาทที่รัฐบาลยังคงค้างจ่ายปีการผลิต 2565/66 และความชัดเจนถึงการสนับสนุนในปีการผลิต 2566/67 ที่กำลังจะเปิดหีบในเดือน ธ.ค.นี้ โดยการหารือมีการหยิบยกแนวทางการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานเพิ่มขึ้นอีก กก. ละ 4 บาทตามต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงเนื่องจากราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นรวมถึงเกณฑ์การช่วยเหลือการตัดอ้อยสดเพื่อลดอ้อยไฟไหม้ ที่ยังไม่มีข้อสรุปและมีการต่อรองในเรื่องของการปรับขึ้นราคาน้ำตาลแล้ว อาจไม่จำเป็นต้องขอเงินสนับสนุน 120 บาท/ตันแต่ชาวไร่และโรงงานต่างเห็นว่าเป็นคนละเรื่องกันระหว่างการขอเงินสนับสนุนกับการขึ้นราคาน้ำตาลทราย

ทั้งนี้ ปัจจุบันราคาหน้าโรงงานน้ำตาลทรายขาวธรรมดา กก.ละ 19 บาท น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ กก.ละ 20 บาท ขณะที่ราคาขายปลีกในท้องตลาด น้ำตาลทรายขาวธรรมดา กก.ละ 24 บาท น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ กก.ละ 25 บาท การปรับราคาดังกล่าว มีผลให้ราคาหน้าโรงงาน น้ำตาลทรายขาวธรรมดาปรับขึ้นเป็น กก.ละ 23 บาท น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 24 บาท ขณะที่ราคาขายปลีกในท้องตลาด ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 28 บาท และ 29 บาท ตามลำดับ.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ