ตั้งเป้า "อีอีซี" ดึงทุนนอก 5 แสนล้าน "ภูมิธรรม" ให้เวลา สกพอ. 99 วัน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.หรืออีอีซี) ว่า ที่มอบหมายให้สำนักงาน กพอ. เร่งไปเจรจาหาข้อสรุปเกี่ยวกับการแก้ไขสัญญา โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน มูลค่าการลงทุน 281,941 ล้านบาท ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ซึ่งเป็นเอกชนคู่สัญญา ให้เสร็จภายในเดือน ม.ค.2567 เพื่อเดินหน้าก่อสร้างโดยเร็ว ขณะที่โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก เอกชนคู่สัญญาพร้อมเริ่มต้นขั้นตอนการก่อสร้างได้ตั้งแต่ต้นปี 2567

“ทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องใหญ่และมีปัญหาค้างมา และคาดหวังว่าจะเกิดขึ้นได้ก่อนรัฐบาลนี้จะจบลง สัญญาต่างๆที่รัฐบาลจะต้องเคลียร์ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้น สิ่งที่รัฐบาลตั้งใจทำในตอนนี้คือได้กำหนดนโยบายให้ทุกอย่างจะต้องเดินไปพร้อมกัน ไม่ต้องรอให้เรื่องหนึ่งจบแล้วค่อยไปต่อเรื่องที่สอง เพราะถือว่าเป็นโครงสร้างใหญ่ รัฐบาลนี้จะทำให้ประสบความสำเร็จทำให้เกิดการลงทุนต่างๆ สนับสนุนเศรษฐกิจประเทศให้ดีขึ้น ทุกอย่างจะผลักดันให้เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ให้ได้เห็น แม้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์แต่ก็ได้เห็นทิศทางที่จะเดินหน้าจบลงด้วยดี”

ส่วนบอร์ดอีอีซีครั้งนี้ได้เห็นชอบร่างแผนดำเนินการในระยะ 1 ปี (ต.ค.66-ก.ย.67) และเป้าหมายเร่งด่วนภายใน 99 วัน ลงมือทำจริงใน 8 ด้าน เพื่อดึงดูดเงินลงทุนทั่วโลกผ่านอุตสาหกรรมเป้าหมาย ใน 5 คลัสเตอร์หลัก การแพทย์ ดิจิทัล ยานยนต์ไฟฟ้า BCG บริการ ดึงการลงทุน 500,000 ล้านบาทใน 5 ปี หรือปีละ 100,000 ล้านบาท และจะมีการออกประกาศ กพอ. เรื่อง สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ครอบคลุมด้านภาษี และมิใช่ภาษี เช่น การให้ EEC Long term VISA เป็นกรณีพิเศษที่ตั้งเป้าเริ่มใช้ได้วันที่ 1 ม.ค.2567

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สกพอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี หากเริ่มก็อยู่ในวิสัยที่จะเสร็จภายในรัฐบาลนี้ได้ ที่ผ่านมาการเจรจาสัญญามีประเด็นค้างอยู่ คือการปรับข้อสัญญาในกรณีที่เกิดสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนายภูมิธรรมได้มอบนโยบายต้องคุยกันให้จบในช่วงเวลา 99 วัน ถ้าไม่จบจะกระทบไปถึงโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาด้วย ต้องเจรจาครอบคลุม ทั้งเรื่องแอร์พอร์ตเรลลิงก์และไฮสปีดเทรนไทย-จีน ถ้าพบปัญหาและอะไรไม่ได้เกี่ยวพันกับสัญญานี้ อาจจะต้องดึงออกไปเพื่อให้สัญญานี้เดินต่อได้.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่