พาณิชย์ชี้อยู่ในเกณฑ์ปกติ “ผักสด” ยกแผงขึ้นราคารับเทศกาลกินเจ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมกรมการค้าภายในว่า มอบนโยบายให้ติดตามสถานการณ์ข้าวอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นห่วงผลกระทบจากเอลนีโญ ที่อาจทำให้ผลผลิตลดลง และอินเดียยังห้ามส่งออกข้าวขาว โดยให้ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อติดตามการผลิต การส่งออก และการบริโภคในประเทศที่จะต้องมีความสมดุลทุกภาคส่วน

นอกจากนี้ ยังขอให้เตรียมแผนและมาตรการรับมือสินค้าเกษตรอื่นๆด้วย ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่จะต้องติดตามให้ดี เพราะถ้ามีปัญหาก็จะกระทบต่อราคาอาหารสัตว์, มันสำปะหลัง ที่ผลผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการอยู่แล้ว ต้องติดตามด้วย, ปาล์มน้ำมันที่แม้ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่อย่าประมาท

ขณะเดียวกัน ให้มอนิเตอร์สินค้าที่มีการประกาศลดราคาไปก่อนหน้านี้ว่า มีการปรับลดราคาลงจริงหรือไม่ ประชาชนรู้สึกว่าลดจริงหรือไม่ ไม่ใช่แค่ประกาศลด แต่ไม่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่ามันช่วยลดค่าครองชีพได้จริงๆ เพราะถ้าประชาชนรู้สึกจะถือเป็นความสำเร็จในการช่วยลดภาระค่าครองชีพ พร้อมกับให้เตรียมความพร้อมในการนำร้านธงฟ้า ตลาดต้องชม ฟาร์มเอาต์เลต หมู่บ้านทำมาค้าขายที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมการค้าภายในเข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัล วอลเล็ต เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการซื้อสินค้า เพราะรัฐบาลเดินหน้าโครงการนี้แน่นอน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาผักสดหลายชนิดในช่วงเทศกาลกินเจที่จะมาถึงในวันที่ 15-23 ต.ค.66 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกิโลกรัม (กก.) ละ 5-20 บาท โดยข้อมูลจากกรมการค้าภายในพบว่า ผักคะน้าอยู่ที่ กก.ละ 40-45 บาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่เฉลี่ย กก.ละ 26 บาท, ผักบุ้งจีน กก.ละ 40-45 บาท จาก กก.ละ 25 บาท, ผักกวางตุ้ง กก.ละ 30-35 บาท จากกก.ละ 24 บาท, ผักกาดขาว กก.ละ 35-40 บาท จาก กก.ละ 32 บาท, กะหล่ำปลี กก.ละ 30-35 บาท จาก กก.ละ 32.50 บาท

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เจ้าหน้าที่สายตรวจกรมการค้าภายในตามแหล่งจำหน่ายวัตถุดิบที่ใช้ประกอบเป็นอาหารเจพบว่า มีการแสดงราคาชัดเจนเปิดเผย ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อ และยังไม่พบพฤติกรรมการฉวยโอกาสปรับราคา โดยภาพรวมราคาไม่แตกต่างจากปีที่แล้วมากนัก ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ เป็นการปรับขึ้นในระยะเวลาสั้นจากความต้องการของตลาดที่สูงกว่าปกติในช่วงวันสำคัญ เช่น โปรตีนเกษตร กก.ละ 170-180 บาท, หน่อไม้จีน กก.ละ 350 บาท, เห็ดหอมจีนขนาดกลาง กก.ละ 350-420 บาท

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรรายงานว่า เทศกาลกินเจคนกรุงเทพฯปี 66 เม็ดเงินสะพัดราว 3,100 ล้านบาท โต 3.5% จากปีก่อน สาเหตุเพราะราคาอาหารเจเพิ่มขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบและราคาพลังงาน คนกินเจมากขึ้นจากความนิยมอาหารเพื่อสุขภาพ และการกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็มีผู้บริโภคที่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายปรับตัวโดยการลดวันหรือซื้ออาหารสำเร็จรูปมากกว่าทำเอง.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่