ส่งสาร Thais Always Care ลั่นโลก พร้อมยกระดับความปลอดภัยทุกพื้นที่ท่องเที่ยว

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ในสังคมโซเชียลหรือโลกออนไลน์ของชาวจีน มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงถึงเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าพารากอน จนทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยต้องเสียชีวิต ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ดังนั้น ททท.ก็ต้องเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่น และสื่อสารให้โลกรู้ว่าสถานการณ์นี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็ไม่อยากโทษใคร สิ่งที่ต้องทำคือ การแสดงความรับผิดชอบ และจริงใจ เร่งประสานมาตรการเยียวยาฟื้นฟู ดูแลผู้เสียหาย และเร่งยกระดับความปลอดภัยในทุกพื้นที่ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้รับไปดูแลแล้ว

ขณะเดียวกัน ททท.ต้องปรับการสื่อสารไปยังทั่วโลกว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และจะมีแคมเปญสื่อสารไปในโลกออนไลน์ ภายใต้แคมเปญ Thais Always Care หรือคนไทยใส่ใจเสมอ เพื่อต้องการบอกว่าคนไทยแคร์เรื่องที่เกิดขึ้นและให้ไทยได้เข้ามามีส่วนร่วมในแคมเปญนี้ ว่ามีความเป็นห่วงความรู้สึกของทุกคน ไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นกับทุกคน และไม่ใช่แค่กับนักท่องเที่ยวชาวจีนเท่านั้น แต่รวมถึงชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทย และคนไทยด้วย

นอกจากนี้ เน้นการสื่อสารภาพลักษณ์ที่การเปลี่ยนแปลงและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในแนวคิดโครงการ “Thailand I Love You” ผ่านกิจกรรมประชาสัมพันธ์มากขึ้น รวมถึงการจัดแถลงข่าว โดยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท. ซึ่งมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ 1.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเรียกร้องและผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนและเพิ่มมาตรการในการดูแลและป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นอีก อาทิ การเพิ่มมาตรการตรวจค้นอาวุธหรือสิ่งอันตราย การกวดขันการครอบครองสิ่งเทียมอาวุธและการดัดแปลง การเพิ่มอัตรากำลังตำรวจในเครื่องแบบในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

2.ททท.เร่งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย และสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านสื่อต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ อาทิ เครือข่ายมือถือ ไชน่า โมบาย, หัวเว่ย, สตรีมมิ่ง แพลตฟอร์ม อ้ายฉีอี้ (IQIYI) รวมทั้งใช้เซเลบริตี้ และอินฟลูเอนเซอร์ ประชาสัมพันธ์ผ่านแพลตฟอร์มที่เข้าถึงผู้คนได้จำนวนมาก 3.เพิ่มเติมมาตรการเสริมความเชื่อมั่น “Trusted Thailand” พิจารณาเพิ่มเติมมาตรการอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์กับนักท่องเที่ยว อาทิ การประกันความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวร่วมกับบริษัทประกันภัย

4.ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการใช้แอป พลิเคชัน “Tourist Police I lert you” นักท่องเที่ยวสามารถขอความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยวได้ตลอด 24 ชั่วโมง  5.กระตุ้นตลาด โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทั้งเอเย่นต์ท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA), แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ และสายการบินในเมืองใหญ่ๆ

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ได้สอบถามไปยังผู้ประกอบการทัวร์ฝั่งจีน พบว่าเนื่องจากเหตุเกิดในช่วงที่ตรงกับโกลเด้นวีกหยุดยาววันชาติจีนพอดี จึงยังไม่เห็นผลกระทบชัดเจนในเชิงพาณิชย์นัก ต้องรอประเมินในสัปดาห์หน้าว่าจะมีการยกเลิกหรือชะลอการเดินทางหรือไม่ แต่ในเชิงความรู้สึกของชาวจีนแล้วกระทบชัดมาก แม้ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ เป็นการตอกย้ำว่าประเทศไทยยังมีข้อบกพร่องเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเป็นจุดที่คนจีนซีเรียสมาก มองว่าการมีคนมาถือปืนในห้างนั้นเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุยังเป็นเด็กอายุ 14 ปี ชาวจีนคิดไม่ถึงว่าเป็นไปได้อย่างไร ทั้งยังพูดถึงประเด็นช่องโหว่ของกฎหมายไทย ประกอบกับผู้เสียชีวิตชาวจีนเป็นแม่ลูกแฝด จึงเป็นข่าวที่ขยี้อารมณ์เข้าไปอีก

“หากนายกรัฐมนตรี ไปเยือนประเทศจีน อยากให้ย้ำกับรัฐบาลจีนคือมาตรการดูแลความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเมื่อเดินทางมาไทย ต้องแสดงความจริงใจ ว่าประเทศไทยพร้อมดูแล ยอมรับในผลกระทบที่เกิดขึ้น พร้อมให้คำมั่นว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก และที่สำคัญต้องดูแลผู้เสียหายอย่างดีที่สุด ครอบครัวเขาจะได้พูดถึงประเทศไทยในเชิงบวก”.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่