การพบปะหารือระหว่าง นายกฯเศรษฐา ทวีสิน กับ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยถูกโฟกัสเป็นพิเศษ โดยปกติแล้วระหว่าง รัฐบาล กับ แบงก์ชาติ จะทำงานเป็นอิสระซึ่งกันและกัน เพื่อป้องกันการเข้าไปแทรกแซง นโยบายการเงินการคลังของประเทศ ในต่างประเทศถือเป็นเรื่องใหญ่ อย่าง ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด จะได้รับความน่าเชื่อถือพอๆกับ ผู้นำสหรัฐฯ ดังนั้นการแสดงความคิดเห็นด้านการเงินการคลังของประเทศจะมีน้ำหนักพอที่จะคัดค้านนโยบายของรัฐบาลได้ และไม่เฉพาะธนาคารกลางเท่านั้น สภาคองเกรสยังมีอำนาจในการยับยั้งงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลเช่นกัน
ไม่กี่วันที่ผ่านมา สภาคองเกรส อนุมัติงบประมาณรายจ่ายให้กับ รัฐบาลไบเดน เป็นการชั่วคราว และสั่งตัดงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือยูเครน ออกทั้งหมด ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังว้าวุ่น เตรียมเสนอของบประมาณรายจ่ายเข้าไปใหม่อีกรอบ
ที่ผ่านมา ผู้ว่าการแบงก์ชาติ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณตามนโยบายรัฐบาลเอาไว้หลายเรื่อง เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท การพักหนี้เกษตรกร ล้วนแต่เป็นหน้า เป็นตาของรัฐบาลชุดนี้ ถึงขนาดมีข่าวลือว่า นายกฯจะเปลี่ยนตัวผู้ว่าการ แบงก์ชาติ ร้อนถึงนายกฯต้องออกมาปฏิเสธว่า ไม่เคยไปแทรกแซงค่าเงินบาทและไม่คิดปลดผู้ว่าการแบงก์ชาติคนปัจจุบัน
นโยบายการเงิน ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจระดับมหภาค ยังติดใจรัฐบาลเศรษฐา จากที่คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี จากเดิม 2.25% เป็น 2.50% ต่อปีมีผลตั้งแต่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจภาพรวมในทุกด้าน เช่น การฟื้นตัวของอสังหาริมทรัพย์ ราคาสินค้าการเกษตร การส่งออก ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ค่าเงินบาท เริ่มอ่อนค่าลงอีกระลอก
ในขณะที่การใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เป็นแบบขาดดุลมีจำนวนที่มากขึ้น ยกตัวอย่างการทำงบประมาณรายจ่าย บูรณาการประจำปีงบประมาณปี 2567 การพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ที่กระทรวงคมนาคมที่มี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น รมว.คมนาคม จัดทำข้อเสนอการบูรณาการร่วมกันของ 7 กระทรวง 24 หน่วยงาน ทั้งสิ้นกว่า 2.8 แสนล้านบาท จากเดิมที่เคยเสนอไว้ ประมาณ 2.44 แสนล้านบาท มีการปรับเพิ่มขึ้นถึง 4 หมื่นล้านบาท
เป็นโครงการพัฒนาการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 276,323 ล้านบาท กระจายไปยังกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าท่า กรมท่าอากาศยาน กรมการขนส่งทางบก การรถไฟ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นงบพัฒนามาตรฐานด้านคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์อีก 3,553 ล้านบาท จัดสรรให้ 6 หน่วยงาน สำนักงานปลัดกระทรวง กรมการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางราง กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ยังมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับเส้นทางรถไฟไทย-ลาว-จีน ให้การรถไฟอีก 1,896 ล้าน และโครงการที่จะผลักดันใช้งบประจำปี 2567 อีกบานตะไท มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช บางใหญ่-กาญจนบุรี การขนส่งสินค้าเชียงของ นครพนม ปรับปรุงท่าอากาศยาน 27 แห่ง นี่แค่น้ำจิ้ม ยังมีโครงการอื่นอีกบานตะไท มาเร็วเคลมเร็ว.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th