จีบ "เทสลา" ตั้งฐานผลิตอีวีในไทย "เศรษฐา" เจรจานักธุรกิจสหรัฐฯ ระดมการลงทุนจากยักษ์ใหญ่

ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ รายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ว่า เมื่อ 16.00 น.ของวันที่ 20 ก.ย.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้หารือผู้บริหารเทสลา, เทสลา สเปซเอ็กซ์ และ Starlink โดยผู้บริหารบางส่วนอยู่ในห้องประชุมเดียวกัน ส่วนนายอีลอน มัสก์ ร่วมประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยนายเศรษฐาได้ชักชวนให้เทสลาย้ายฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยเชื่อมั่นว่าจะเกิดเป็นผลสำเร็จ ทั้งต่อความร่วมมือด้านยานยนต์ไฟฟ้า หรือรถอีวี และเพิ่มความร่วมมือด้านการสำรวจอวกาศ ซึ่งมีมูลค่าทางตลาดสูง ขณะที่เทสลาได้กล่าวชื่นชมศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ของไทย ซึ่งเหมาะสมกับการลงทุนของเทสลา

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้หารือกับผู้บริหาร บริษัท เอสเต้ ลอเดอร์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ของสหรัฐฯ จากนั้นได้พบผู้บริหารไมโครซอฟท์ และกูเกิล เพื่อชักชวนให้ทั้ง 3 รายเข้าไปขยายการลงทุนและใช้ไทยเป็นสำนักงาน ซึ่งเอกชนทั้ง 3 แสดงความสนใจที่จะขยายการลงทุนในประเทศไทย

นายเศรษฐากล่าวว่า หากต้องชักชวนให้นักลงทุนจากทั่วโลกไปลงทุนในไทย จำเป็นต้องมีสถาบันการเงินระดับโลกสนับสนุนและปรึกษาทางด้านการเงินด้วย ซึ่งได้เชื้อเชิญให้โกลด์แมน แซคส์ เข้าไปตั้งสำนักงานสาขาในประเทศ ส่วนการพบกับประธานบริษัท เอสเต้ ลอเดอร์ ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีและยาวนานกับประเทศไทย ทั้งตระกูลจิราธิวัฒน์ และกลุ่มคิง เพาเวอร์ โดยประธานเอสเต้ ลอเดอร์ได้ย้ำถึงมิตรภาพความสัมพันธ์ที่ดี และได้สอบถามถึงธุรกิจสาหร่ายในประเทศไทย ซึ่งเป็นวัตถุดิบการผลิตเครื่องสำอาง หากจะตั้งโรงงานผลิต ต้องคำนึงถึงวัตถุดิบด้วย จึงได้มอบหมายให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสาหร่ายของประเทศไทย เพื่อให้คำตอบประธานเอสเต้ในโอกาสต่อไป

ส่วนพบกับผู้บริการไมโครซอฟท์และกูเกิล ทั้ง 2 บริษัทมีแผนจะขยายการลงทุนในไทยอยู่แล้ว และได้ติดต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มาอย่างต่อเนื่อง จึงมาต่อยอดและผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยไมโครซอฟท์ชื่นชมไทยที่มีจุดแข็งสามารถเป็นศูนย์กลางมีศักยภาพที่จะเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ของภูมิภาค ต้องการสนับสนุนให้ภาคเอกชน และภาครัฐในการใช้คลาวด์ (cloud) ซึ่งลงทุนคลาวด์ในไทยจะช่วยส่งเสริมความสามารถของคนไทย ทั้งที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น สายงาน IT วิศวกร และจะช่วยพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรบุคคลเพื่อส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของไทย นับจากนี้ไปอีก 7 สัปดาห์ หรือวันที่ 13 พ.ย.66 จะมีการประชุมผู้นำการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่นครซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ เชื่อว่าเวลานั้นหลายๆเรื่องจะมีความคืบหน้า และมีคำตอบ.