อาเซียนผนึก "อียู" เพิ่มกิจกรรมเศรษฐกิจ สร้างนวัตกรรมดิจิทัลและห่วงโซ่อุปทาน

นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-กรรมาธิการยุโรปด้านการค้า ครั้งที่ 19 เมื่อวันที่ 20 ส.ค.66 ที่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ว่า ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังโควิด-19 การเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความผันผวนในตลาดการเงินโลกและภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ และได้มอบให้เจ้าหน้าที่อาวุโสหารือกัน เพื่อจัดทำความร่วมมือ เพื่อบรรเทาผลกระทบดังกล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ติดตามผลการดำเนินงานภายใต้แผนงานด้านการค้าและการลงทุนอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) ปี 65-66 และให้การรับรองแผนงานฯปี 67-68 เพื่อกระชับการเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดระหว่างกัน ซึ่งรวมถึงการผลักดันความร่วมมือ 3 สาขา ภายใต้คณะทำงานร่วมด้านการค้าและการลงทุนอาเซียน-อียู ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

สำหรับการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-สหราชอาณาจักร ครั้งที่ 3 ได้หารือถึงการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันในช่วงปี 67-68 รวมทั้งเห็นชอบให้เพิ่มกิจกรรมความร่วมมือ 4 สาขา ได้แก่ นวัตกรรมดิจิทัล, การพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย, บริการทางการเงิน, ทักษะและการศึกษาในแผนใหม่ด้วย เช่น การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในเรื่องดิจิทัลเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของอาเซียน การสนับสนุนการเงินที่ยั่งยืนและการลงทุนสีเขียว เป็นต้น