สำนักงบขานรับนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่น โยน “เศรษฐา” หางบลุยไฟ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

สำนักงบขานรับนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่น โยน “เศรษฐา” หางบลุยไฟ

Date Time: 24 ส.ค. 2566 06:28 น.

Summary

  • สำนักงบชี้ “ลุงตู่” ลงนามใช้งบขยายเป็น 8 เดือน ภายใต้ วงเงิน 1.8 ล้านล้านบาท จากความล่าช้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เปิดทางรัฐบาลใหม่รื้อรายละเอียดงบปี 67 เพื่อหาเงินทำกระเป๋าตังค์ดิจิทัล 5.6 แสนล้านบาท แนะทำงบขาดดุลเพิ่มได้ 50,000 ล้านบาท

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย

สำนักงบชี้ “ลุงตู่” ลงนามใช้งบขยายเป็น 8 เดือน ภายใต้ วงเงิน 1.8 ล้านล้านบาท จากความล่าช้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เปิดทางรัฐบาลใหม่รื้อรายละเอียดงบปี 67 เพื่อหาเงินทำกระเป๋าตังค์ดิจิทัล 5.6 แสนล้านบาท แนะทำงบขาดดุลเพิ่มได้ 50,000 ล้านบาท

นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า สำนักงบประมาณได้นำเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามเพื่อขยายกรอบเวลาการใช้งบประมาณพลางก่อนออกเป็น 8 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน ต.ค.66-พ.ค.67 โดยขยายเพิ่มขึ้นอีก 2 เดือน จากเดิมที่ขยายเวลาให้ 6 เดือน ถึงเดือน มี.ค.66 เนื่องจากการจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 ต้องล่าช้าออกไปจากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ จากเดิมคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ส.ค.นี้ พร้อมกันนี้ได้กำหนด วงเงินที่จะใช้ได้ในช่วง 8 เดือนนี้ 1.8 ล้านล้านบาท ดังนั้น ส่วนราชการ ต่างๆจึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินใช้

“การเบิกจ่ายไม่ใช่ปัญหาของงบประมาณ เพราะสำนักงบฯให้แต่ละ หน่วยงานส่งเอกสารคำร้องตามความจำเป็นมาโดยแต่ละไตรมาสต้องใช้เงินเท่าไหร่ ซึ่งสำนักงบฯจะให้เงินตามแผนที่แต่ละหน่วยงานต้องใช้เงิน ทีละไตรมาส แต่บางเรื่องหน่วยงานต้องใช้เงินตามสัญญาเป็นเงินก้อนทั้งปี ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการใช้เงิน เพราะเมื่อใกล้จะหมดไตรมาสสำนักงบฯก็จะอนุมัติงบให้ใหม่ โดยหลังจากนี้สำนักงบฯจะส่งหนังสือเวียนให้กับหน่วยงานส่วนราชการภายในหนึ่งถึงสองสัปดาห์นี้ และหน่วยงานจะต้องส่งรายการที่ต้องใช้เงินมาภายใน 15 ก.ย.66 สำนักงบฯก็จะอนุมัติจัดสรรงบประมาณให้ก่อนวันที่ 1 ต.ค.66 และปีนี้ผ่อนคลายให้สามารถใช้งบลงทุนที่ครุภัณฑ์ต่ำกว่า 1 ล้านบาท และสิ่งก่อสร้างต่ำกว่า 10 ล้านบาท ได้ด้วย ถ้าแสดงถึงเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วน”

ขณะเดียวกัน ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีเงินลงสู่ ระบบเศรษฐกิจ เพราะในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2567 หรือตั้งแต่เดือน ต.ค.66-มี.ค.67 จะมีเงินลงสู่ระบบจากงบประมาณปกติ 1.5 ล้านล้านบาท งบลงทุนผูกพัน 100,000 ล้าน บาท และงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 200,000 ล้านบาท รวมวงเงิน 1.8 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงกับทุกๆปีที่ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท

ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ทันที ที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของรัฐบาลใหม่ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณจะเสนอกรอบการจัดทำงบประมาณ รายจ่ายประจำปี 2567 เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในครั้งแรกทันที โดยกรอบที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำไว้มีวงเงินรายจ่าย 3.35 ล้านล้านบาท ขาดดุล 593,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลสามารถจัดทำใหม่เลยก็ได้ สามารถไปปรับแต่งได้ตามความเหมาะสม ทางสำนักงบ ประมาณคงทำตามนโยบายให้ได้ดีที่สุด

ทั้งนี้ เรื่องการจัดทำตามนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งจะใช้วงเงินมากถึง 560,000 ล้านบาทนั้น เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินแล้ว สำนักงบประมาณจะรายงานสถานะงบประมาณประเทศให้รับทราบ ในเบื้องต้นมองว่า สำนักงบฯเพียงหน่วยงานเดียวคงทำไม่ได้ รัฐบาลต้องหารือและใช้เครื่องมือของกระทรวงการคลังในการหาเม็ดเงินเพิ่มเติม และอาจปรับลดลงประมาณ บางส่วนที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนลง เพื่อมีเงินส่วนหนึ่งไปขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวได้

อย่างไรก็ตาม สำนักงบประมาณมองว่าสามารถขาดดุลงบประมาณในปี 67 ได้เพิ่มอีก 50,000 ล้านบาท เป็นขาดดุลงบประมาณ 643,000 ล้านบาท ซึ่งยังเป็นการขาดดุลงบประมาณน้อยกว่าในปีงบประมาณ 66 ที่ขาดดุล 695,000 ล้านบาท ซึ่งขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะตัดสินใจอย่างไร ส่วนต้องกู้เงินเพิ่มหรือไม่ขึ้นอยู่กับการจัดเก็บรายได้ของปีงบประมาณ 67 ด้วย ถ้าจัดเก็บงบประมาณเกินเป้าหมายก็อาจกู้น้อยลง และอาจมีเครื่องมืออื่นที่รัฐบาลต้องคุยกับกระทรวงการคลังว่าจะทำอย่างไร.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ