ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีที่ผลิตภัณฑ์นมสดพาสเจอไรซ์ในท้องตลาดมีปริมาณลดลงว่า โดยปกติช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.ของทุกปี จะเป็นช่วงพักเต้า หรือรีดนมลดลง ประกอบกับการเลี้ยงโคนมที่ลดลง ซึ่งกรมได้หารือกับห้างค้าส่งค้าปลีก และห้างท้องถิ่นทั่วประเทศขอให้เติมสินค้าบนชั้นวางอย่างสม่ำเสมอ และล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ส.ค.66 ได้หารือกับผู้ผลิตนมสดพาสเจอไรซ์รายใหญ่ โดยกำชับให้ผู้ผลิตบริหารจัดการการผลิตและจำหน่ายให้สามารถกระจายสินค้าได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนการผลิตนมสดพาสเจอไรซ์ โดยเฉพาะนมจืดสูตรพื้นฐาน ให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ทั้งในการบริโภคภาคครัวเรือนและใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ หรือใช้เป็นส่วนผสมของอาหารและขนมหวานต่างๆ ซึ่งผู้ผลิตทุกรายยืนยันจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
“สำหรับนมสดยูเอชที ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาด 55% ของการบริโภคนมสดทั้งหมด ยังคงผลิตและจำหน่ายตามปกติ นมสดไม่ขาดแคลนแน่นอน นอกจากนี้ ห้างต่างๆยังจัดโปรโมชัน ลดราคาอย่างต่อเนื่อง แต่กรมจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป”
ส่วนราคาปุ๋ยเคมีและยาปราบศัตรูพืชปีนี้ ภาพรวมราคา ลดลงกว่าปีก่อนชัดเจน เช่น ปุ๋ยเคมีถูกกว่าปีก่อน 50% ขณะที่ ยาปราบศัตรูพืชลดลง 20-30% แต่ในช่วงนี้แม้ต้นทุนปุ๋ยเคมีขยับขึ้นเล็กน้อย เพราะอยู่ในช่วงการประมูลแม่ปุ๋ยที่ประเทศบราซิล รวมถึงราคาพลังงานและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น แต่กรมขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการตรึงราคาไว้แล้ว เพราะราคาปุ๋ยที่เพิ่มขึ้นตามต้นทุนขณะนี้น่าจะขยับขึ้นในช่วงสั้นๆ และหลังจากนี้ราคาปุ๋ยมีทิศทางปรับลดลงได้อีก ขอให้เกษตรกร เบาใจได้ว่าราคาปุ๋ยเคมีจะยังไม่ปรับขึ้นในช่วงนี้
นอกจากนี้ ยังได้จัดส่งสายตรวจกรมการค้าภายใน และประสานพาณิชย์จังหวัดเร่งตรวจสอบราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยการผลิตอื่นๆ รวมถึงค่าบริการเกี่ยวข้าว เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา เอาเปรียบเกษตรกร ในช่วงที่ราคา ข้าวกำลังสูงขึ้น และให้รายงานผลมาให้กรมรับทราบทุกสัปดาห์ ซึ่งขณะนี้ยืนยันว่า ราคายังคงเป็นไปตามปกติ โดยกรมต้องการ ให้ชาวนาได้รับประโยชน์จากราคาข้าวที่สูงขึ้นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย.