1 ปีสลากดิจิทัล

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

1 ปีสลากดิจิทัล

Date Time: 20 มิ.ย. 2566 05:56 น.

Summary

  • คนดวงจะเฮง อะไรก็ฉุดไม่อยู่ เป็นคำฮอตฮิตในวัน “หวยออก” ล่าสุด “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ก็กลายเป็นคนดวงเฮง แถม “นำโชค” ให้คนชอบเสี่ยงโชค ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัวตรงๆ เลข “30” งวดวันที่ 16 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย

คนดวงจะเฮง...อะไรก็ฉุดไม่อยู่ เป็นคำฮอตฮิตในวัน “หวยออก” ล่าสุด “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ก็กลายเป็นคนดวงเฮง แถม “นำโชค” ให้คนชอบเสี่ยงโชค ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัวตรงๆ เลข “30” งวดวันที่ 16 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา

ระหว่างเดินสายโรดโชว์ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ในจังหวัดลำพูน โดย “พิธา” ได้ซื้อลอตเตอรี่เลขท้าย 30 จำนวน 2 ใบ บริเวณหน้าลานอนุสาวรีย์พระแม่จามเทวี จังหวัดลำพูน

แต่ไม่ใช่แค่งวดนี้เท่านั้นที่เป็นที่ฮือฮา เมื่องวดวันที่ 16 พ.ค.2566 “ด้อมส้ม” ก็ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ด้วยการนำเลขว่าที่นายกฯคนที่ 30 มาสลับเป็น 03 และตัวย่อพรรค “ก.ก.” มาตีเป็นเลข 99 โดยงวดดังกล่าว รางวัลที่ออกเลขท้าย 2 ตัว คือ “99” และท้ายรางวัลที่ 1 ออก 03

หวย “พิธา” น่าจะทำให้วงการหวยกลับมาคึกคักคักคึกอีกรอบ และเลขเด็ด เลขดัง อาจต้องจ่ายแพงขึ้น เพราะสลากมักขายเกินราคา แต่หากอยากซื้อหวยรัฐบาลราคาไม่แพงและไม่เกินราคา ก็ต้องลงทุน “สลากดิจิทัล” หรือ “หวยดิจิทัล” ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เพิ่มช่องทางการซื้อในฐานะทางเลือกในการซื้อสลากในราคาตรงปกตรงใบละ “80 บาท” ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งงวดวันที่ 1 ก.ค.2566 ได้เปิดจำหน่ายแล้วเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2566 ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ทุกวัน หรือจนกว่าจำนวนสลากจะหมด โดยงวดนี้มีสลากดิจิทัลทั้งหมด 18.53 ล้านใบ จากตัวแทนจำหน่าย 37,061 ราย

แนวทางในการแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลขายเกินราคา ด้วยการวางจำหน่ายสลากดิจิทัล ซึ่งเปิดตัวงวดแรกเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2565 มีอายุครบ 1 ปีเต็มแล้ว และภายในเดือน ส.ค.นี้ จะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายอีก 2,000-3,000 ราย ซึ่งจะทำให้จำนวนสลากดิจิทัลเพิ่มขึ้นอีก 1-1.5 ล้านใบ สิริรวมมีจำนวนสลากดิจิทัลเกือบ 20 ล้านใบ เป็นไปตามเป้าหมายที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลวางไว้ว่าจะวางขายสลากดิจิทัลในสัดส่วน 20% ของจำนวนสลากทั้งหมดที่ 100 ล้านใบ

จากวันเริ่มจำหน่ายจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 1 ปี จากยอดจำหน่ายครั้งแรก 5 ล้านใบ ทยอยเพิ่มจำนวนสลากทุกงวด จนถึงปัจจุบัน 18.53 ล้านใบ และได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้ซื้อผ่านแอปเป๋าตังรวม 5.7 ล้านคน และในทุกๆงวดจะมีผู้ซื้อรายใหม่ 50,000-70,000 คน

การออกสลากดิจิทัล แม้จะยังแก้ปัญหาสลากเกินราคาไม่ได้ทั้งหมด แต่เป็นกลไกทำให้ราคาสลากใบปรับลดลงมาเรื่อยๆ จากใบละ 150 บาท เหลือใบละ 100 บาท และบางงวดลงมาอยู่ที่ใบละ 80 บาท

แต่โดยธรรมชาติของการซื้อ “สลากดิจิทัล” จะเปิดขายในวันถัดไปหลังวันหวยออก ผู้ซื้อจะซื้อเลขดั่งใจได้ ซื้อได้ตามต้องการ ไม่มีอั้น ไม่มีกั๊ก โดยสลากดิจิทัลจะขายดีมากใน 3 วันแรก ต่างกับสลากใบที่จะขายดีก่อนวันออกรางวัล 2-3 วัน เพราะเลขเด่น เลขดัง จะออกมาใกล้ๆวันหวยออกแล้วหาซื้อไม่ได้ แผงใดมีเลขเด็ดเลขดัง ราคาสลากใบจะแพงหูฉี่ บางแผงโก่งราคาใบละ 120-150 บาท เมื่อผู้ซื้อต้องการเลขเด่นเลขดัง ก็ต้องยอมจ่าย

เรื่องนี้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยอมรับว่าสลากเกินราคา ไม่มีวันหมดไปแน่ หากสัดส่วนสลากดิจิทัลอยู่ในระดับ 18-20%

แม้ทุกวันนี้การร้องเรียนปัญหาสลากเกินราคาจะน้อยลง เพราะประชาชนมีทางเลือกในการหาซื้อสลากใบละ 80 บาทได้มากขึ้น ขณะที่ผู้ค้าสลากรายย่อยที่รับโควตาจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีอยู่ 140,000 ราย ประท้วงน้อยลง เพราะทุกคนจะได้สลาก 3 เล่ม รวม 300 ใบ ไปจำหน่ายแน่นอน พร้อมกันนี้ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดจับกุมการจำหน่ายสลากเกินราคา โดยเน้นที่ต้นตอของการรับโควตาจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ได้เน้นจับกุมพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยที่เดินขายตามตลาดนัด ด้วยวิธีการล่อซื้อสลากที่ขายเกินราคา แล้วนำไปตรวจสอบว่าสลากใบนี้มีต้นตอจากแหล่งใด แล้วนำไปตัดโควตาเจ้าของสลากตัวจริง เนื่องจากทำผิดสัญญาที่ตกลงกันไว้ว่าจะไม่จำหน่ายด้วยตัวเอง นำไปขายยกเล่ม หรือขายเกินราคา

นอกจากนั้น ยังได้เสนอการออกสลากรูปแบบใหม่ ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือ L6 และสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก หรือ N3 ขณะนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติในหลักการเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงร่างกฎกระทรวงการคลัง และประกาศสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่รอเสนอ ครม.เห็นชอบในเร็วๆนี้

ตอนนี้จึงต้องรอลุ้นกันว่า “สลากดิจิทัล-สลาก L6-N3” จะช่วยแก้ปัญหาขายสลากเกินราคาให้ลดลงและหมดไปในที่สุดได้หรือไม่.

ดวงพร อุดมทิพย์


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ