ต่างชาติขนเงินซื้ออสังหาไทย ชาวซาอุฯ แห่ช็อปโรงแรม ส่วนจีน-เมียนมา-อินเดีย ลุยซื้อ “บ้านหลังที่ 2”

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ต่างชาติขนเงินซื้ออสังหาไทย ชาวซาอุฯ แห่ช็อปโรงแรม ส่วนจีน-เมียนมา-อินเดีย ลุยซื้อ “บ้านหลังที่ 2”

Date Time: 9 มิ.ย. 2566 16:33 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ปี 2566 ยังมีแนวโน้มขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางปัจจัยกดดันหลายแง่ “กำลังซื้อ” คนในประเทศอ่อนแอ ด้วยการเงินที่ต้องพร้อม รับกับสถานการณ์ดอกเบี้ยขาขึ้น

Latest


 

ในยามนี้ “ชาวต่างชาติ” จึงเป็นตลาดเป้าหมายของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในทำเลฮอต ของ กทม. และ ต่างจังหวัด กลุ่มหัวเมืองท่องเที่ยว เพราะเห็นสัญญาณกลับเข้ามาซื้อ ทั้งอยู่อาศัย และ ลงทุนอย่างต่อเนื่อง 


“แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท” เอเจนต์ยักษ์ใหญ่เมืองไทย และ เคลเลอร์ วิลเลี่ยม ไทยแลนด์ (Keller Williams Thailand หรือ KW) บริษัทตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์และที่ปรึกษาด้านการบริการตลาดและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ตัวแทนขายและที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่มียอดขายสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเครือข่ายจำนวนพนักงานสูงที่สุดทั่วโลก ที่ปัจจุบันมีพอร์ตในการบริหารโครงการที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม โรงแรม วิลล่า มูลค่าไม่น้อยกว่า 30,000-40,000 ล้านบาท 


จีน-เมียนมา-อินเดีย กำลังซื้อร้อนแรง


โดย นายวิทย์ กุลธนวิภาส ซีอีโอ เผยว่า ในปีที่ผ่านมา การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย มีผลต่อค่างวดในการผ่อนสินเชื่อที่อยู่อาศัยของคนไทย ขณะความเคลื่อนไหวของกลุ่มลูกค้าต่างชาติดีขึ้น ทั้งจากประเทศฮ่องกง จีน เมียนมา กัมพูชา และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะ ชาวเมียนมาและจีน มองหาคอนโดมิเนียมราคาแพง 


เช่น ลูกค้าชาวจีนมองหาห้องเพนต์เฮาส์ ประมาณเฉลี่ย 20-50 ล้านบาท หรือ เท่าที่ได้รับข้อมูลมา ก็พบว่า ชาวจีน ก็มีความสนใจคอนโดฯ ราคา 100 ล้านบาท จากสถานการณ์ ที่ตอนนี้มีเพียงกลุ่มคนจีนที่มีความร่ำรวยเดินทางเข้ามาได้ค่อนข้างง่าย 

ส่วนผู้ซื้อสัญชาติเมียนมา น่าสนใจในแง่ ไลฟ์สไตล์ เพราะ มีความคุ้นเคยกับประเทศไทยมากกว่าชาติอื่น และกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจมีกิจการอยู่ในประเทศเมียนมา แต่ต้องการมีบ้านหลังที่สองในประเทศไทย พบจะเลือกซื้อคอนโดฯทำเลที่ใกล้โซนสถานีรถไฟฟ้า, สถานทูต, ห้างสรรพสินค้า และใกล้มหาวิทยาลัย เนื่องจากชาวเมียนมามีการส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาในประเทศไทย ทำให้คอนโดฯราคา 2-20 ล้านบาท ได้รับความนิยม 


เอเจนต์ดัง ยังเผยว่า ตลาดชาวอินเดีย เป็นอีกกลุ่มที่เข้ามาค่อนข้างมาก หลังจากมีการเปิดประเทศ ความน่าสนใจ คือ เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อดี และนิยมโซนเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ในโครงการคอนโดฯ ราคา 2-4 ล้านบาท


สอดคล้องข้อมูล ที่ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยก่อนหน้านี้ว่า เพียงแค่ 3 เดือน ไตรมาสแรกปี 2566 ชาวจีนโอนเม็ดเงิน ถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดฯ ไทย ตามกฎหมาย ไปแล้ว 8,191 ล้านบาท ขณะเมียนมาโอนกรรมสิทธิ์ 497 ล้านบาท แต่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อหน่วย แพงมากสุดในตาราง ที่ 6.5 ล้านบาท เช่นเดียวกับชาติอินเดีย ที่ไหลเข้ามาในตลาดอสังหาฯ ไทย จากการเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น ขณะภาพรวม ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์อสังหาฯ ไทย ณ ไตรมาสแรก ได้แก่ จีน รัสเซีย สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมัน ฝรั่งเศล ไต้หวัน เมียนมา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และ อื่นๆ ที่มูลค่า 17,128 ล้านบาท จำนวน 3,775 หน่วย คิดเป็นพื้นที่ 168,670 ตร.ม.


ชาวซาอุฯ ดีลช็อปโรงแรมไทยต่อเนื่อง 


ไม่เพียงแต่ตลาดคอนโดฯ ที่ร้อนแรง แคปปิตอล วัน ยังระบุว่า หลังจากไทยฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดีอาระเบีย ทาง KW ได้มีการเข้าไปเปิดตลาดในประเทศดังกล่าว ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา พบมีกลุ่มลูกค้าต้องการขยายการลงทุนอสังหาฯ ในไทย โดยมีทั้งแบบกองทุน และบุคลล แบบไม่กำหนดเพดานงบประมาณ โดยจะเน้นเรื่องผลตอบแทนการลงทุน เป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ ชาวซาอุฯ จะซื้อทั้งอาคาร คอนโดมิเนียม โดยเฉพาะ โรงแรม ตามหัวเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต และ พัทยา เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ KW มีดีลในการซื้อโรงแรมอยู่ราว 3 โครงการ ในจังหวัดภูเก็ต ให้กับชาวซาอุฯ  มูลค่ารวมราว 6,000 ล้านบาท  

ขณะที่การลงทุนจากสหรัฐฯ ในไทย มีความเคลื่อนไหวมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากอานิสงส์ ปัญหาราคาอสังหาฯ ในสหรัฐฯ เข้าสู่ Over Priced ลงทุนไม่คุ้มค่า ทำให้เริ่มเห็นการเข้ามา เจาะในจังหวัด ภูเก็ต และ สมุย ในอสังหาฯ ราคาตั้งแต่ 8 แสนดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 70 ล้านบาท 

 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์