นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณามาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (รถยนต์อีวี) และมาตรการที่เกี่ยวข้องในส่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในขณะนี้ได้ส่งมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ซึ่งประชุมไปเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2566 ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อขอความเห็นถึงแนวทางที่จะนำเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ว่าจะสามารถเสนอในรูปแบบใด ระหว่างรูปแบบแรก คือ เสนอให้ ครม.รับทราบมติการประชุมบอร์ดอีวีล่าสุดทั้งฉบับ รวมทั้งมาตรการที่จะขอใช้งบประมาณในการสนับสนุนภาคเอกชนในการลงทุนโรงงานแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ EV ในประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ การดำเนินการในเรื่องการของบประมาณสนับสนุนในขณะนี้ถือว่ามีข้อจำกัดเพราะกฎหมาย
ขณะที่ในรูปแบบที่สองคือเสนอ ครม.รับทราบเฉพาะมาตรการบางส่วนที่ไม่ได้ใช้งบประมาณ แต่เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐที่เป็นหน่วยงานปฏิบัติ เช่น กรมสรรพสามิต หรือ กรมศุลกากร ที่มีข้อติดขัดจากการปฏิบัติตามมาตรการสนับสนุนรถอีวี หรือ อีวี 3.0 ที่มีการอนุมัติไปก่อนหน้านี้เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถทำงานต่อได้ โดยจะยังไม่เสนอมาตรการที่ต้องมีการขอรับสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐให้กับ ครม.รับทราบ
“เรื่องของโรงงานแบตเตอรี่เข้าใจถึงความล่าช้า แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่ต้องขอสนับสนุนงบประมาณ เป็นเรื่องที่ผูกพันไปถึงรัฐบาลใหม่ ซึ่งอย่างไรก็ต้องรอรัฐบาลใหม่ เรื่องนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเสนอไปก็อาจโดนทักท้วงเหมือนตอนเรื่องของค่าไฟ แต่เราก็จะเสนอ ครม.เป็นเรื่องเพื่อทราบดู แต่ก็ต้องถามความเห็นจากสำนักเลขาฯ ครม.ว่าควรจะเสนออย่างไร จะเสนอเข้าไปทั้งฉบับหรือว่าเสนอเฉพาะมาตรการที่ไม่ต้องใช้เงินงบประมาณเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานได้ ตอนนี้ก็ต้องระมัดระวังเพราะถ้าเสนอเข้าไปหมดก็อาจตกทั้งฉบับ ตกทั้งกระดานจะยุ่ง”.