เตือนระวังเอสเอ็มเอสลวง แอบอ้างเป็นธนาคาร! กดปุ๊บเงินหายวับ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เตือนระวังเอสเอ็มเอสลวง แอบอ้างเป็นธนาคาร! กดปุ๊บเงินหายวับ

Date Time: 5 พ.ค. 2566 05:30 น.

Summary

  • ดีอีเอสเตือนเอสเอ็มเอส (SMS) ลวงกลับมาอาละวาดแอบอ้างเป็นธนาคาร ส่งเอสเอ็มเอสแนบลิงก์ กดปุ๊บถูกเข้าควบคุมมือถือจากทางไกล ดูดเงินออกจากบัญชี–รูดบัตรเครดิตเสียหายเพียบ

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย

ดีอีเอสเตือนเอสเอ็มเอส (SMS) ลวงกลับมาอาละวาดแอบอ้างเป็นธนาคาร ส่งเอสเอ็มเอสแนบลิงก์ กดปุ๊บถูกเข้าควบคุมมือถือจากทางไกล ดูดเงินออกจากบัญชี–รูดบัตรเครดิตเสียหายเพียบ ด้านสมาคมธนาคารไทยย้ำ ไม่ให้แบงก์ส่งเอสเอ็มเอสแนบลิงก์เด็ดขาด ยอมรับขั้นตอนระงับบัญชี หลังถูกแฮ็กทำได้ยาก เพราะเงินที่โกงมาจะถูกโอนเป็นทอดๆอย่างรวดเร็ว

นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส กล่าวว่า ขณะนี้อาชญากรรมออนไลน์ที่กำลังแพร่หลายอย่างมากและมีจำนวนเหยื่อเพิ่มขึ้น คือการส่งเอสเอ็มเอสหรือข้อความสั้นแอบอ้างในนามธนาคารพาณิชย์ แล้วแนบลิงก์หลอกให้เหยื่อกดเข้าไป จากนั้นจะถูกแฮกเกอร์เข้าควบคุมมือถือจากระยะไกล (Remote) เพื่อโอนเงินออกจากบัญชีของเหยื่อหรือใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ผูกติดกับบัญชีของเหยื่อ ซึ่งกระทรวงดีอีเอสได้หารือกับสมาคมธนาคารไทย เพื่อทำความเข้าใจและตอกย้ำไม่ให้แบงก์พาณิชย์ส่งลิงก์แนบเอสเอ็มเอสที่ส่งให้กับลูกค้าเด็ดขาด “อาชญากรออนไลน์ได้เปลี่ยนกลเม็ดหลอกลวงไปเรื่อยๆ เมื่อเหยื่อรู้ทันกลเม็ดแบบเดิม ก็เปลี่ยนไปใช้วิธีใหม่ๆ ซึ่งดีอีเอสยอมรับว่าการตอบสนองให้รวดเร็วและเท่าทันกลลวงเหล่านี้ เป็นสิ่งท้าทายมาก ซึ่ง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่มีผลบังคับใช้เมื่อ 17 มี.ค.66 ส่งผลให้สามารถตัดตอนซิมผี-บัญชีม้าได้รวดเร็วและรุนแรงมากขึ้น”

นายยศ กิมสวัสดิ์ ประธานสำนักงานระบบการชำระเงิน สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า สมาคมธนาคารไทยได้กำชับไปยังธนาคารพาณิชย์ทั้ง 15 แห่ง ไม่ให้ส่งลิงก์ผ่านเอสเอ็มเอสที่ส่งให้ลูกค้าโดยเด็ดขาด ดังนั้นหากมีลิงก์ส่งผ่านเอสเอ็มเอสจากธนาคาร ห้ามลูกค้ากดลิงก์เข้าไป เพราะเป็นเอสเอ็มเอสจากธนาคารที่แฮกเกอร์อุปโลกน์ขึ้นมา ส่วนการดำเนินงานภายใต้ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีส่วนช่วยให้จำนวนบัญชีม้าน้อยลง เนื่องจากคนที่รับเปิดบัญชีม้าจะได้รับโทษสูงขึ้น สูงสุดจำคุกถึง 3 ปี ส่วนการระงับการโอนเงิน ซึ่งกฎหมายให้อำนาจ ธนาคารพาณิชย์ระงับบัญชีได้ชั่วคราว 7 วัน หากมีการร้องเรียนว่าบัญชีเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมออนไลน์นั้น ในทางปฏิบัติหากมีการโอนเงินออกจากบัญชีแล้ว เงินจะถูกโอนต่อเป็นทอดๆภายใน 10 นาที อาจถูกโอนผ่านเป็น 10 บัญชี ทำให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างยากลำบาก “คนที่รู้ตัวว่าเคยเปิดบัญชีม้า ขอให้รีบมาปิดบัญชีกับธนาคารโดยเร็ว เพราะ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ทยอยส่งรายชื่อบุคคลพฤติกรรมเสี่ยงสูงหรือต้องเฝ้าระวัง กรณีบัญชีม้าให้ธนาคารเฝ้าระวังแล้ว ใครที่เคยเปิดบัญชีม้า แต่ไม่เคยมีเงินที่ได้จากการหลอกลวงโอนผ่านบัญชี ขอให้รีบมาปิดบัญชีเสีย แต่หากเคยเข้าร่วมแม้ 1 ครั้ง จะไม่สามารถปิดบัญชีได้ เพราะถือว่ามีส่วนร่วมในกระบวนการหลอกลวง รอวันถูกดำเนินคดีแน่นอน”

ขณะที่นายวัลลภ จิวหลง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการมีส่วนร่วมและคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า หลัง กกพ.เปิดช่องทางรับข้อร้องเรียนไฟฟ้าแพง ได้มีผู้ใช้ไฟฟ้าหลายรายโทรศัพท์สอบถามว่า กกพ. มีการติดต่อเพื่อส่งเจ้าหน้าที่เข้าแก้ไขปัญหาไฟฟ้าแพง โดยขอเข้าไปดูอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน และขอแอดไลน์ เพื่อใช้ในการประสานงานหรือไม่ ซึ่ง กกพ.ขอแจ้งว่า ไม่มีการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ให้โทรศัพท์ติดต่อ ขอแอดไลน์ หรือเข้าไปตรวจอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ฉวยโอกาสช่วงประชาชนกังวลกับข่าวค่าไฟฟ้าแพง เพื่อหลอกผู้ใช้ไฟฟ้าเชื่อมโยงช่องทางสื่อสารอันนำไปสู่การหลอกขอรหัสหรือฝังไวรัสไว้ในเครื่องโทรศัพท์ เพื่อใช้โอนเงินออกจากบัญชีภายหลัง ดังนั้น ห้ามให้รหัสหรือเชื่อมต่อแอปพลิเคชันใดๆกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อป้องกันความปลอดภัยของบัญชีธนาคารที่ติดตั้งอยู่ในมือถือ.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ