DITP พร้อมจัดงาน THAIFEX 2023 ตั้งเป้าเงินสะพัดกว่าไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้าน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

DITP พร้อมจัดงาน THAIFEX 2023 ตั้งเป้าเงินสะพัดกว่าไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้าน

Date Time: 27 เม.ย. 2566 12:21 น.

Video

คนไทยจ่ายภาษีน้อย มนุษย์เงินเดือนรับจบ ปัญหาอยู่ที่ระบบหรือคนกันแน่ ? | Money Issue

Summary

  • กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พร้อมจัดงาน THAIFEX 2023 หรือ ไทยเฟกซ์ ระหว่างวันที่ 23-27 พ.ค. 66 ตั้งเป้าเงินสะพัดกว่า 70,000 ล้านบาท

Latest


กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พร้อมจัดงาน THAIFEX 2023 หรือ ไทยเฟกซ์ ระหว่างวันที่ 23-27 พ.ค. 66  ตั้งเป้าเงินสะพัดกว่า 70,000 ล้านบาท 

นางสาวณัฐิยา สุจินดา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หรือ DITP กล่าวว่า ปี 2563-2565 เป็นช่วงเวลาที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้การจัดงาน THAIFEX - ANUGA ASIA ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาต้องมีการปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับสถานการณ์

แต่ในปี 2566 นี้ สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ผู้จัดงานทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ DITP, หอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ จึงเตรียมจัดงาน THAIFEX - ANUGA ASIA 2023 เต็มรูปแบบให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพื่อให้งานนี้เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ครบวงจรที่สุดในภูมิภาคเอเชีย

รวมทั้งยังเป็นเวทีการค้าระดับโลกสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่จะได้มาเจรจาธุรกิจ สร้างโอกาสทางการตลาด ค้นหานวัตกรรม เทคโนโลยี แรงบันดาลใจ เชื่อมต่อธุรกิจทุกภาคส่วนในวงการอาหาร โดยงานนี้ยังเป็นการเน้นย้ำให้ทั่วโลกเห็นศักยภาพของประเทศไทยในฐานะผู้นำในการผลิตและส่งออกอาหารที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ตามนโยบายอาหารไทยอาหารโลกของกระทรวงพาณิชย์

ทั้งนี้ เราคาดว่าปี 66 นี้จะมีผู้ประกอบการมาร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า 3,000 บริษัท ประมาณ 5,500 คูหา รวม 43 ประเทศ แบ่งเป็นผู้ประกอบการไทย 1,200 บริษัท และผู้ประกอบการต่างชาติจากทั่วโลก ทั้งเอเชียตะวันออก อาเซียน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย เป็นต้น

โดยเราก็คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมงานมาเจรจาการค้ากว่า 60,000 คน จาก 120 ประเทศทั่วโลก เนื่องจากอาหารและเครื่องดื่มของไทยได้รับความสนใจจากต่างชาติมาก โดยเราตั้งเป้าว่างานปีนี้จะมีมูลค่าการสั่งซื้อกว่า 70,000 ล้านบาท และมีมูลค่าการสั่งซื้อออนไลน์ผ่าน THAIFEX Virtual Trade Show กว่า 1,500 ล้านบาท

ภายในงานจะมีการจัดแสดงสินค้า โดยแบ่งเป็น 11 โซนสินค้า ประกอบด้วย สินค้าอาหารทุกประเภท อาหารทะเล เนื้อสัตว์ อาหารแช่แข็ง ข้าว ผักและผลไม้ ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ชาและกาแฟ เครื่องมือ/เครื่องใช้/อุปกรณ์ รวมถึงบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมทั้งกิจกรรมพิเศษมากมาย ทั้งการแข่งขัน Thailand Ultimate Chef Challenge กิจกรรมเสวนาให้ความรู้ กิจกรรมเปิดโลกการค้ากับทูตพาณิชย์ (Export Clinic) และยังมีโซนพิเศษที่จะอัปเดตเทรนด์ผู้บริโภคอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง THAIFEX - Virtual Trade Show ควบคู่กับการจัดทาง On Ground เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่ไม่สะดวกเดินทาง ซึ่งสามารถเข้าไปเลือกประเภทสินค้าที่สนใจ ชมคูหา 3 มิติ วิดีโอ แคตตาล็อกสินค้า และรูปภาพสินค้า รวมถึงเจรจาการค้าทางวิดีโอคอล แชต หรือฝากข้อความได้

ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยมีความเข้มแข็ง และเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคนี้ ในปี 2565 ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับ 15 ของโลก มีมูลค่า 1.36 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 จากปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการสินค้าอาหารในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ประเทศต่างๆ ทยอยเปิดประเทศตั้งแต่ต้นปี 2565

"งาน THAIFEX - ANUGA ASIA มีความสำคัญต่อผู้ประกอบการไทย ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ SMEs รวมถึงกลุ่มสตาร์ทอัพ ที่จะมีโอกาสนำสินค้าและบริการเข้าสู่ตลาดทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ จึงเชื่อว่างานนี้จะช่วยส่งเสริมธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของไทยให้เติบโตอย่างก้าว"

ดร.กฤษณะ กล่าวอีกว่า การกลับมาจัดเต็มรูปแบบอย่างยิ่งใหญ่ในปีนี้ ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการรายใหญ่มากมาย โดยจะมีการนำเสนอนวัตกรรม และกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การระบุเรื่อง Carbon Footprint และ Eco Score การนำเสนอแนวคิดสินค้าที่เกี่ยวกับ Zero Waste และ Food Waste การให้ความสำคัญกับแนวทางความยั่งยืนตลอด Value Chain

โดยนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน จะไม่เป็นเพียงกระแส แต่จะกลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่ทุกคนหันมาใช้อย่างจริงจัง ส่วนผู้ประกอบการขนาดกลาง SMEs ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และสตาร์ทอัพ ก็ให้ความสนใจเข้าร่วมแสดงสินค้าจำนวนมากเช่นกัน เพราะเป็นโอกาสที่จะได้แนะนำสินค้า ทดสอบตลาด และสร้างโอกาสทางธุรกิจกับงานระดับนานาชาติ

นายภูษิต ศศิธรานนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ โคโลญเมสเซ่ ประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้เราใช้มาตรการด้านความยั่งยืนในการจัดงาน THAIFEX - ANUGA ASIA 2023 เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเพิ่มการใช้งานระบบดิจิทัลและแอปพลิเคชันมือถือ ลดการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น คู่มือและโบรชัวร์ รวมไปถึงยกเลิกการใช้พรมบริเวณทางเดิน และปรับมาใช้บัตรเข้างานแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยประหยัดสายคล้องคอได้กว่า 70,000 เส้น นอกจากนี้

หลังจบงานจะนำเอาป้ายและแบนเนอร์ต่างๆ ในงาน ไปจัดทำเป็นกระเป๋า เพื่อนำไปบริจาคให้โรงเรียน และองค์กรการกุศล ตามเป้าหมายในการจัดงานแสดงสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป้าหมายสูงสุดของเรา คือ การเป็นผู้นำและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นร่วมกันคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับงาน THAIFEX - ANUGA ASIA 2023 ได้ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร. 1169 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้ที่ www.thaifex-anuga.com  เจรจาธุรกิจวันที่ 23–27 พ.ค. 66


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ