ลั่นปริมาณสำรองไม่เกี่ยวไฟแพง ครม.ลดค่าเอฟทีกลุ่มเปราะบาง ช่วยค่าไฟ 150 บาท

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ลั่นปริมาณสำรองไม่เกี่ยวไฟแพง ครม.ลดค่าเอฟทีกลุ่มเปราะบาง ช่วยค่าไฟ 150 บาท

Date Time: 26 เม.ย. 2566 07:07 น.

Summary

  • “บิ๊กตู่” ย้ำทำดีที่สุดช่วยบรรเทาภาระค่าไฟคนไทย ทั้งไฟบ้านไม่เกิน 150 หน่วย 300 หน่วย และครั้งนี้เพิ่มไฟบ้าน 500 หน่วย กระทรวงพลังงานยันไม่ได้สำรองไฟ

Latest

“ซื้อบ้าน” หลังแรก กับหลักวางแผนการเงิน รายได้เหยียบแสน แต่ไม่หยุด สร้างหนี้ใหม่ ก็อาจเป็นแค่ฝัน

“บิ๊กตู่” ย้ำทำดีที่สุดช่วยบรรเทาภาระค่าไฟคนไทย ทั้งไฟบ้านไม่เกิน 150 หน่วย 300 หน่วย และครั้งนี้เพิ่มไฟบ้าน 500 หน่วย กระทรวงพลังงานยันไม่ได้สำรองไฟจนเกินความจำเป็น และเป็นเหตุให้ค่าไฟพุ่ง แจงการรับซื้อไฟจากพลังงานสะอาดต้องใช้เวลาอีก 2–3 ปี จึงเข้าระบบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังที่ประชุมคณะรัฐ มนตรี (ครม.) เห็นชอบการขออนุมัติใช้งบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่รัฐ ธรรมนูญมาตรา 169 (3) กำหนดเนื่องจากเป็นช่วงยุบสภา วงเงิน 11,112 ล้านบาท ช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ของประชาชนในเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 โดย 1. ช่วยเหลือค่าไฟฟ้าครัวเรือนที่ใช้ไม่เกิน 300 หน่วย ในเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 18.36 ล้านครัวเรือน วงเงิน 7,602 ล้านบาท โดยปรับลดค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (ค่าเอฟที) ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้า 1-150 หน่วยต่อเดือน เหลือ 1.39 สตางค์ต่อหน่วย ผู้ที่ใช้ไฟฟ้า 151-300 หน่วยต่อเดือน เหลือ 26.39 สต.ต่อหน่วย 2.มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าระยะเร่งด่วน ช่วยเหลือผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน เป็นเงิน 150 บาท ในบิลค่าไฟในเดือน พ.ค. เพียงเดือนใช้งบไม่เกิน 3,510 ล้านบาท ว่าขณะนี้การใช้งบประมาณต้องปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญในช่วงเลือกตั้ง และที่ผ่านมารัฐบาลได้ดูแลผู้ใช้ไฟฟ้าที่ไม่เกิน 150 หน่วย และ 300 หน่วย และวันนี้จะเพิ่มผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วย

“ขอให้ไว้วางใจซึ่งกันและกันว่า เราพยายามจะทำให้ดีที่สุด ก็เป็นข้อกังวลเหมือนกันกรณีที่มี พรรคการเมืองไปหาเสียงต่างๆว่าจะลดค่าไฟฟ้าลง เท่านั้นเท่านี้ ถ้ามาดูไส้ในแล้วจะรู้ว่ามีรายละเอียดมากมาย ส่วนที่มีการพูดว่ารัฐบาลอนุมัติรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม 2 งวด ทำให้เกิดภาระ ซึ่งจริงๆเป็นการอนุมัติไว้เฉยๆ แล้วยังไม่ได้สร้างเลย ส่วนปริมาณไฟฟ้าสำรองที่บอกว่าเกินไป 50-60% ก็ไม่ใช่ตัวเลขนั้น ใน ครม.ได้คุย กันเป็นชั่วโมงก็เข้าใจกันดีในขั้นต้น ส่วนค่าไฟฟ้าในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.นี้ จะคิดราคาเท่ากับทั้งอุตสาหกรรมและประชาชน”

ด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายก รัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ได้ชี้แจงให้ ครม.รับทราบข้อเท็จจริงเรื่องปริมาณสำรองไฟฟ้าที่มีการให้ข้อมูลว่ามีมากกว่า 50% นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะปัจจุบันเหลืออยู่ 35% ซึ่งแม้ว่าจะยังอยู่ในระดับสูงกว่ามาตรฐานนานาชาติที่อยู่ที่ 15-20% แต่จะทยอยลดลงเรื่อยๆจากการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น การปิดซ่อมโรงไฟฟ้าบางแห่ง ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถเมล์ไฟฟ้า

ส่วนการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเพิ่มเติมของรัฐบาลเป็นการดำเนินการตามเป้าหมายการลดการพึ่งพาการผลิตก๊าซจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งเป็นเงื่อนไขการเข้ามาลงทุนของต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดมากขึ้น และตอบโจทย์การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย โดยการอนุมัติการรับซื้อไฟฟ้าในครั้งนี้ต้องใช้เวลา 2-3 ปีจึงจะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้

ขณะที่นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยเพิ่มเติมประเด็นอัตราการสำรองไฟฟ้า (Reserve Margin : RM) ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นอีกสาเหตุทำให้ค่าไฟแพงว่า ปัจจุบันสำรองไฟฟ้าของไทยอยู่ที่ 36% ไม่ได้สูงถึง 50-60% โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นการนำค่ากำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญามาคำนวณ จึงไม่สะท้อนอัตราการสำรองไฟฟ้าแท้จริง อาทิ ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน อาทิ พลังงานลม แสงอาทิตย์ ชีวมวล กลุ่มนี้ไม่สามารถพึ่งพาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากปัจจัยช่วงเวลา ฤดูกาล จึงถูกคำนวณเป็นสำรองไฟฟ้าแต่ไม่ใช่สำรองไฟฟ้าที่แท้จริง

“การสำรองไฟฟ้าจริงๆแล้วมีประเด็นตลอด โดยแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ที่กำหนดการจัดหาพลังงานไฟฟ้า 20 ปี ด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน การเปิดโครงการผลิตไฟฟ้าที่สะอาดจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น และก็จำเป็นต้องมีปริมาณไฟฟ้าสำรองไว้ อีกส่วนหนึ่งเพื่อความมั่นคงในอนาคต”

นายกุลิศกล่าวว่า ถ้าต้องการจะให้ค่าไฟฟ้ามีราคาต่ำกว่า 4 บาทต่อหน่วย หากดูแผน PDP ก่อนหน้านี้การนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) โดยสถิติปี 2562-2563 อยู่ที่ระดับ 6-7 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อล้านบีทียู แต่ปลายปีที่ผ่านมากระโดดมาที่ 40-50 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู จากการฟื้นตัวหลังโควิด-19 รวมถึงสงครามรัสเซียและยูเครน จึงส่งผลกระทบต่อการคำนวณเอฟที ทำให้ราคาค่า ไฟฟ้าที่แพงขึ้น ซึ่งขณะนี้ก็พยายามคำนวณในราคาที่ลดลงมาอยู่ที่ 19-20 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้กำชับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดหาแอลเอ็นจีให้ได้ในราคา 13-15 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู เพื่อทำให้ราคาค่าไฟลดลงในงวดถัดๆไป และอยากให้เห็นใจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการแบกรับภาระตรงนี้.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ