บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เตรียมเปิดให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ ลงทะเบียนรับเงินช่วย "ค่าน้ำ-ค่าไฟ" พร้อมย้ำจะต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา (มาตรการบรรเทาฯ) เป็นหนึ่งในมาตรการการจัดสรรประชารัฐสวัสดิการใหม่ สำหรับผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 (บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) โดยมาตรการบรรเทาฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาให้แก่ผู้ถือบัตรฯ ซึ่งรายละเอียดการดำเนินมาตรการบรรเทาฯ มีดังนี้
โครงการฯ ปี 2565 ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าและค่าประปา สำหรับผู้มีบัตรฯ จากเดิมที่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 ต้องสำรองเงินจ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าหรือค่าประปาให้แก่ผู้ให้บริการล่วงหน้าก่อน โดยผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 จะได้รับเงินสนับสนุนคืนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายหลัง
สำหรับมาตรการบรรเทาฯ ในครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนเป็นภาครัฐโดยกระทรวงการคลังจะสนับสนุนค่าไฟฟ้าหรือค่าประปาให้แก่ผู้ให้บริการโดยตรงตามมูลค่าที่ผู้มีบัตรฯ ใช้สิทธิ์ตามเงื่อนไขมาตรการบรรเทาฯ ที่กำหนด โดยวิธีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายนี้จะทำให้ผู้มีบัตรฯ ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่าบริการไปก่อน ซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระ และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ผู้มีบัตรฯ
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่ประสงค์รับสิทธิมาตรการบรรเทาฯ จะต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคน
1. สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือผ่านเว็บไซต์ (คลิกที่นี่) เบอร์ติดต่อ 1130
2. สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ (คลิกที่นี่) เบอร์ติดต่อ 1129
3. กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) หรือผ่านเว็บไซต์ (คลิกที่นี่) เบอร์ติดต่อ 086-848-1284
1. สำนักงานการประปานครหลวง (กปน.) หรือ ผ่านเว็บไซต์ (คลิกที่นี่) เบอร์ติดต่อ 1125
2. สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) หรือ ผ่านเว็บไซต์ (คลิกที่นี่) เบอร์ติดต่อ 1662
สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ และได้ยืนยันตัวตนสำเร็จ เพื่อรับสิทธิตามโครงการฯ ปี 2565 แล้ว สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิค่าไฟฟ้าและค่าประปาได้ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. 2566 เป็นต้นไป กับหน่วยงานผู้ให้บริการที่ผู้มีบัตรฯ รับบริการอยู่ ซึ่งหากลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เม.ย. 2566 เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เม.ย. 2566 เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 มี.ค. 2566 เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรก คือ "ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนเมษายน 2566"
ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนภายหลังวันและเวลาดังกล่าว เมื่อลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน จะสามารถได้รับสิทธิสำหรับใบแจ้งหนี้ค่าบริการในเดือนถัดไป (ไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 จะสามารถใช้สิทธิในรอบใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือน มี.ค. 2566 เป็นเดือนสุดท้าย สามารถนำใบแจ้งหนี้ค่าบริการที่ค้างชำระในช่วงที่ได้รับสิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ไปชำระเพื่อขอรับเงินสนับสนุนได้จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2566
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 สามารถเข้าร่วมมาตรการบรรเทาฯ ได้ทุกคน แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสวัสดิการของมาตรการบรรเทาฯ ที่กำหนดการให้สวัสดิการแบบ 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 รหัสประจำบ้าน ซึ่งสามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน เช่นเดียวกันกับค่าประปาที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าบริการได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง