วันนี้ของ “ท็อป บิทคับ”

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

วันนี้ของ “ท็อป บิทคับ”

Date Time: 6 ธ.ค. 2565 06:43 น.

Summary

  • ถูก “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” เทกระจาดยกเลิกการลงทุนมูลค่ากว่า 17,850 ล้านบาทใน “บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด” (Bitkub Online Co., Ltd.) หลังกระบวนการซื้อขายหุ้นยืดเยื้อนานกว่า 10 เดือน

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย

ถูก “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” เทกระจาดยกเลิกการลงทุนมูลค่ากว่า 17,850 ล้านบาทใน “บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด” (Bitkub Online Co., Ltd.) หลังกระบวนการซื้อขายหุ้นยืดเยื้อนานกว่า 10 เดือน (พ.ย.2564-ส.ค.2565)

ข่าวคราวของ ท็อป-จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบิทคับ แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ จำกัด ก็ดูเหมือนว่าจะเลือนหาย พร้อมกันกับราคาสินทรัพย์ดิจิทัล คริปโตเคอร์เรนซีที่อยู่ในภาวะดิ่งเหว

การปรากฏตัวของเขาเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2565 ในฐานะผู้บรรยายบนเวทีสัมมนา “Thailand 4.0 ประเทศไทยไปไกลกว่าที่คิด” จัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นยิ่ง ยืนยันได้จากจำนวนผู้เข้าฟังคับคั่งเต็มพื้นที่ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมเซ็นทาราลาดพร้าว

จิรายุส ซึ่งขึ้นบรรยายพิเศษในหัวข้อ “เทรนด์อาชีพ ตอบโจทย์โลกอนาคต” บอกกับผู้ฟังว่า สารพันปัญหาเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่ราคาสินค้าแพงดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น สงครามรัสเซีย-ยูเครน และการประลองขั้วอำนาจระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตหรือ Supply Chain ทั่วโลกคือ Perfect Storm (พายุลูกใหญ่)

เมื่อ 40% ของจีดีพีโลกมาจากการซื้อหาสินค้าระหว่างกัน หากประเทศใดเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ย่อมกระทบชิ่งไปยังเศรษฐกิจประเทศอื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อนเฉลยว่าเทรนด์อาชีพใดตอบโจทย์โลกแห่งอนาคต เขาขอแนะนำว่า ปีหน้าจะเป็นที่หนักหนา ทุกคนต้องเก็บเงินสดเอาไว้ อย่าใช้ในสิ่งไม่จำเป็น

“จากที่ผมได้มีโอกาสไปร่วมประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum หรือ WEF) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์เมื่อเดือน พ.ค. 2565 ซีอีโอเกือบทั้งหมดไม่มีการวางโรดแม็ปหรือแผนดำเนินงานรองรับปี 2023 พวกเขาข้ามไปพูดถึงโรดแม็ปในปี 2024 ซึ่งอัตราเงินเฟ้อโลกน่าจะลงมาสู่ระดับพอรับได้ที่ 2%”

สัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการดึงเงินสดออกจากระบบ ในระยะสั้นสิ่งที่ทั้งตัวบุคคลและบริษัทต้องทำคือ 1.เก็บเงินสดไว้ให้มากที่สุด อย่ากู้ซื้อบ้าน อย่ากู้ซื้อรถ อย่าลงทุนที่มีความเสี่ยง 2.อย่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ต้องยืดเวลาใช้จ่ายออกไปให้นานที่สุด (Delay Consumption) รอให้รอดถึงปี 2567 ซึ่งเป็นจุดที่เงินเฟ้อทั่วโลกน่าจะปรับลดลง

ท่ามกลาง Perfect Storm หากจะให้มองหาโอกาส เขาเห็นใน 4 กระแสหลัก ได้แก่ 1.ความหลากหลาย (Diversity) 2.ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Inclusion) 3.การให้โอกาสทุกคน (Fairness) 4.ความยั่งยืน (Sustainable) อธิบายโดยรวมได้ว่าธุรกิจที่สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ ความคิด ฯลฯ การให้โอกาสผู้หญิงเติบโตในระดับบริหารหรือสายอาชีพที่เคยเป็นของเพศชาย เช่น วิศวกร ตลอดจนให้ความสำคัญกับพนักงานในทุกแผนกอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติและการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมโลก ล้วนเป็นกุญแจสู่อนาคต

จาก 4 กระแสหลักที่ว่า นำไปสู่เทรนด์อาชีพแห่งความรุ่งโรจน์ จิรายุสฟันธง คือธุรกิจที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน ซึ่งมาพร้อมกับคำยอดฮิตโมเดลเศรษฐกิจใหม่ “BCG” หรือ Bio-Circular-Green Economy (เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว) เทรนด์แรก ได้แก่ Climate Tech หรือบริษัทเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะสร้างมหาเศรษฐีล้านล้าน (Trillionaire) คนแรกของโลก

“ตอนนี้เราได้เห็นอีลอน มัสก์ ผู้ริเริ่มรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า (Tesla) กลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านในเวลาไม่กี่ปี ผมทำนายว่าในยุคต่อไป Climate Tech จะทำให้เรามีมหาเศรษฐีล้านล้านคนแรกของโลก”

นอกเหนือจาก Climate Tech แล้ว เทรนด์เฟื่องฟูในอนาคตคืออาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นอาหารสังเคราะห์ (Artificial Food) เนื้อสัตว์ที่เพาะจากห้องแล็บ (Lab-grown Meat) เพราะการผลิตอาหาร การเลี้ยงสัตว์เป็นกระบวนการที่ทำลายสิ่งแวดล้อมมาก ประกอบกับพลเมืองโลกที่เพิ่มขึ้นแตะ 8,000 ล้านคนไปเมื่อเดือน พ.ย.2565 และจะเพิ่มขึ้น 1,000 ล้านคนในทุกๆ 10 ปี มนุษยชาติจำเป็นต้องเสาะหาทางเลือกด้านอาหารใหม่ๆ ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เมื่ออาหารสังเคราะห์มีรสชาติใกล้เคียงอาหารจริง จะเกิดจุดเปลี่ยนทันที

สำหรับประเทศไทย จิรายุสมองว่าการพัฒนาสู่การปลูกข้าวที่ไม่ปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก จะช่วยให้ข้าวไทยขายได้ในราคาสูงขึ้นในอนาคต เขายังคิดว่าการเรียนในสายสิ่งแวดล้อมหรือคณะสิ่งแวดล้อมจะทวีความสำคัญไม่ต่างจากการเรียนด้านธุรกิจ

ในวิกฤติทั้งหมด ยังมีเรื่องราวดีๆ เมื่อโลกทั้งใบกำลังหันเข้าหาอาเซียน ตั้งแต่ปี 2024-2034 อาเซียนจะเข้าสู่ยุคทองคำ เงินทุนจะหลั่งไหลเข้ามา อาเซียนจะกลายเป็น Supply Chain ของโลก ซึ่งอินโดนีเซียชิงประกาศตัวแล้วว่าจะขอเป็นศูนย์กลางแห่งความยั่งยืน (Sustainable Hub) และนี่คือโอกาสในการเปลี่ยนสู่กระแส Green สีเขียวที่ใครไม่เปลี่ยน ไม่มีโอกาสรอด.

ศุภิกา ยิ้มละมัย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ