รัฐ-เอกชนเห็นพ้อง “บีซีจี โมเดล” หอการค้าไทยยื่น “สมุดปกขาว” แก้เศรษฐกิจ

“สุพัฒนพงษ์” ปลุกเอกชนใช้ “บีซีจี โมเดล” เป็นแนวทางทำธุรกิจ ป้องกันกีดกันการค้า ดูแลสิ่งแวดล้อม เพิ่ม มูลค่า มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นจากวิกฤติ ลุยผุดระเบียงเศรษฐกิจ เพิ่มทุกภูมิภาค ดึงดูดลงทุน ใช้กลยุทธ์พลังงานสะอาด ด้านหอการค้าไทยเสนอ “สมุดปกขาว” กู้เศรษฐกิจไทยต่อนายกฯ

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ร่วมแรง ร่วมใจ ยกระดับไทย สู่ความยั่งยืน” ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 40 ที่ จ.อุบลราชธานี ว่า สมุด ปกขาวที่หอการค้าไทยได้ระดมสมองสมาชิกจัดทำขึ้นนั้น น่าจะเป็นความหวัง เป็นทางออกของประเทศ แต่ต้องการให้เอกชนใช้บีซีจี โมเดล (เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว) เป็นแนวทาง ดำเนินธุรกิจให้มากขึ้น เพราะเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อม เพิ่มมูลค่าสินค้า ป้องกันตัวเองจากมาตรการกีดกันทางการค้า ซึ่งมีต้นทุนแฝงมากขึ้น

“ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คนไทยเริ่มทำกันบ้างแล้ว แต่อยากให้ช่วยกัน ยกระดับสินค้าเหล่านี้ โดยให้มีมาตรฐานชัดเจน ให้เป็นสินค้าไม่มีพรมแดน ไม่ถูกกีดกัน หรืออยู่ในขอบข่ายความตกลงการค้า ตอนนี้เรายังเจรจาได้ไม่มาก ถ้าคุยกันเป็นกรอบเล็กๆ เป็นช่องทาง พิเศษ ไม่เสียภาษี เราไม่เป็นรองใครแน่นอน ถ้า เราทำเรื่องนี้มากๆจะรักษาความมั่นคงด้านอาหาร แก้ปัญหาโลกร้อนได้เร็วขึ้น ส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศ รัฐ เอกชนต้องร่วมกัน เราจะฟื้นจากวิกฤติไม่ใช่เพื่อดีเท่าเดิม แต่เพื่อดีกว่าเดิม”

นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังเดินหน้าสร้างระบบนิเวศ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะระบบโครงสร้างพื้นฐาน ขณะเดียวกัน กำลังศึกษาการสร้างระเบียงเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นๆ นอกเหนือจากภาคตะวันออก (อีอีซี) เพราะมองว่าถ้ามีกรุงเทพฯขนาดเล็ก 5-6 เมือง กระจายอยู่ในภูมิภาคต่างๆจะทำให้แข็งแรงพอที่จะดูแลทั้งประเทศ ไม่ต้องผูกติดกับกรุงเทพฯอย่างเดียว ซึ่งจากอีอีซีแล้วจะไปไหนต่อ รัฐบาลวางไว้แล้วว่าจะมีระเบียงเศรษฐกิจเหนือ อีสาน ใต้ กลาง แต่ละระเบียงจะมีจุดแข็ง และมีเสน่ห์กว่าเดิม โดยแนวทางที่วางไว้ คือ พลังงานสะอาด ตอนนี้อยู่ระหว่างศึกษา ภายใน 90 วันน่าจะเห็น ความชัดเจน

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้เสนอสมุดปกขาวการแก้ปัญหา เศรษฐกิจต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรี ใน 3 ด้าน 1.Connect เชื่อมโยงความร่วมมือเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ สร้างความเข้มแข็ง SME ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค 2.Competitive ยกระดับความสามารถ แข่งขันประเทศ สนับสนุนการขับเคลื่อนความตกลงการค้าเสรีเอเปก เร่งเจรจาเอฟทีเอ โดยหอการค้าไทย มีแผนดึงดูดนักลงทุนจากจีน ซาอุดีอาระเบีย เวียดนาม และอินเดีย รวมทั้วรักษานักลงทุนเดิม เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ฯลฯ 3.Sustainable สร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยผลักดันเป้าหมายกรุงเทพฯว่าด้วยเศรษฐกิจบีซีจี เป็นต้น

“แม้ว่าเศรษฐกิจโลกปีหน้าจะเปราะบาง แต่เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 3.5-4% ส่งออกโต 3-5% โดยนำข้อเสนอแนะที่ได้จากการจัดสัมมนาครั้งนี้ จัดทำเป็นสมุดปกขาวเสนอรัฐบาลแล้ว”.