สภาองค์กรของผู้บริโภค ยื่นหนังสือ กสทช. ขอให้ชะลอการส่งคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังมีมติ 2 ต่อ 2 ต่อ 1 กรณีควบรวมทรู-ดีแทค
เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 65 นางสาว สุภิญญา กลางณรงค์ อนุกรรมการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า วันนี้ตนได้เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เพื่อชะลอการส่งคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยสืบเนื่องจากมติการควบรวมระหว่างทรู และดีแทค ที่เป็นประเด็นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย กสทช. มีมติ 2:2:1 ซึ่งสภาองค์กรผู้บริโภคเห็นว่าเป็นมติที่น่าจะมีปัญหา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงตั้งใจไปขอศาลปกครองวินิจฉัยเรื่องดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดกระบวนการที่เป็นธรรมกับ กสทช. จึงมายื่นหนังสือขอให้ กสทช. มีโอกาสทบทวนมติในเรื่องนี้ ซึ่งแม้จะอ้างว่าเสียงเท่ากัน 2:2 แล้วประธานใช้สิทธิ์ชี้ขาดสามารถทำได้ แต่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบประโยชน์สาธารณะ จะต้องใช้มติเสียงข้างมากจากทั้งหมดถึงจะมีความชอบธรรม และ คงจะมีข้อโต้แย้งทางกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม อยากเตือน กสทช. ว่า ศาลปกครองเคยให้คำวินิจฉัยเบื้องต้นแล้วว่า กสทช. มีอำนาจในการพิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาต เป็นไปตามข้อ 8 ของประกาศ กสทช. เรื่องประกาศเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำอันเป็นการผูกขาด หรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 โดยหากย้อนไปดูคำวินิจฉัยของศาลปกครองก่อนหน้านี้ มีการยืนยันว่า กสทช. มีอำนาจ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ตามข้อบังคับ
นอกจากนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภค อยากขอให้ กสทช. ทบทวนมติการประชุมพิเศษวาระเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง เพื่อทำมติให้ชัดเจน ครบถ้วน โปร่งใส เป็นไปตามกฎหมายมากกว่านี้ ส่วนประเด็นการยื่นฟ้อง กสทช. ขณะนี้ต้องการเห็นมติสุดท้ายก่อน เนื่องจากยังไม่มีการเผยแพร่มติดังกล่าว จึงอยากขอให้ กสทช. รีบนำมติขึ้นเว็บไซต์ เพื่อดำเนินการฟ้องต่อไป หากยังไม่มีมติอย่างเป็นทางการก็ยังไม่รู้จะฟ้องอะไร
สำหรับการยื่นหนังสือครั้งนี้มีนายภูมิภัส พลการ ผู้อำนวยการสำนักกำกับผังและเนื้อหารายการ และพัฒนาผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เป็นผู้รับหนังสือ.