กรณีศึกษาการตัดสินใจของ กสทช.

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

กรณีศึกษาการตัดสินใจของ กสทช.

Date Time: 24 ต.ค. 2565 05:22 น.

Summary

  • เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่ประชุม กสทช. ได้มีมติในการพิจารณาการควบรวมธุรกิจระหว่าง ทรู คอร์ปอเรชั่น กับ โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ซึ่งต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่ประชุม กสทช. ได้มีมติในการพิจารณาการควบรวมธุรกิจระหว่าง ทรู คอร์ปอเรชั่น กับ โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ซึ่งต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก ในที่นี้ไม่ใช่เรื่องของความละเอียดอ่อนในข้อกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นความละเอียดอ่อนกับอนาคตทางธุรกิจในด้านสาธารณูปโภคที่รัฐ พึงจะต้องรับผิดชอบต่อประชาชนผู้บริโภคด้วย

มติที่ประชุม 3-2 เสียง รับทราบ การรวมธุรกิจระหว่างทั้งสองบริษัท โดยมีเรื่องของเงื่อนไขมาตรการป้องกันไม่ให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม ตามประกาศของ กสทช. ที่จะกำหนดเงื่อนไขและควบคุมในกรณีดังกล่าว เช่นอาจสั่งห้ามการถือครองกิจการหรือกำหนดมาตรการเพิ่มเติมได้ ซึ่งจุดนี้ กรรมการ กสทช. ที่งดออกเสียง เห็นว่า ยังไม่มีความชัดเจนในแง่ของกฎหมายอยู่ดี

ตามด้วยเรื่องที่มีข้อกังวลเรื่องอัตราค่าบริการและสัญญาการให้บริการ ที่ให้เหตุผลว่ามีการกำหนดเพดานของอัตราค่าบริการเฉลี่ย มีทางเลือกของราคาที่แยกรายบริการ นำส่งข้อมูลในการตรวจสอบ มีบทลงโทษ รวมทั้งการกำหนดราคาค่าบริการ โดยใช้ราคาเฉลี่ยทางเศรษฐ ศาสตร์ ที่ให้นำส่งตามประกาศของ กสทช. ตามหลักเกณฑ์ให้ครบถ้วนทุก 3 เดือน หรือเมื่อ กสทช.ร้องขอ จัดให้มีที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบ ข้อมูลโครงสร้างต้นทุน อัตราค่าบริการ โดยให้ กสทช.เป็นผู้กำหนด

มีการกำหนดเงื่อนไขอื่นๆอีกหลายข้อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การถือครองคลื่นความถี่ มาตรการเฉพาะภายหลังการรวมธุรกิจ การประชาสัมพันธ์การให้บริการเพื่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการ เป็นต้น

ที่ส่วนใหญ่เป็นเงื่อนไขข้อตกลงเฉพาะระหว่าง กสทช. และบริษัทเอกชน แต่ในทางปฏิบัติสิ่งที่จะกระทบกับผู้บริโภค รวมทั้งการคุ้มครองผู้บริโภคตามสิทธิขั้นพื้นฐานในรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีความชัดเจนเป็นรูปธรรม

มีการตั้งข้อสังเกตจาก กสทช.เสียงข้างน้อย ศุภัช ศุภชลาศัย และพิรงรอง รามสูต ส่วน พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ของดออกเสียงเพราะมีข้อสงสัยในแง่ของกฎหมายอยู่ ในประเด็นที่ว่า ในทางกฎหมายแล้ว กสทช.มีอำนาจในการพิจารณาอนุญาตหรือไม่ ในการควบรวมครั้งนี้ โดยเฉพาะมาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน

ในเมื่อการควบรวม ส่งผลให้ตลาดที่เกี่ยวข้องมีค่าดัชนี HHI มากกว่า 2,500 และเพิ่มจากเดิมกว่า 100 ไม่ว่าจะคำนวณจากส่วนแบ่งตลาดที่คิดจากจำนวนผู้ใช้บริการของผู้ให้บริการแต่ละราย หรือส่วนแบ่งจากรายได้ของผู้ให้บริการ ที่คาดว่า หลังการควบรวม HHI จะเพิ่มขึ้น จาก 3,612 เป็น 4,725 เพิ่มขึ้นถึง 1,113 และมีผลกระทบต่อตลาดต้นน้ำในระดับ โครงสร้างพื้นฐาน ที่จะเพิ่มขึ้นเช่นกันในทุกด้าน

ส่งผลให้อัตราค่าบริการ ประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการประหยัดต่อขนาด คุณภาพการให้บริการ การขาดแรงจูงใจในการแข่งขันด้านบริการ การเข้าสู่ตลาด ไม่มีความชัดเจนว่าผู้บริโภคจะได้ประโยชน์จากการควบรวม ดังนั้น ผลกระทบที่จะตามมาหรือไม่ก็ตาม นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช.และต่อพงศ์ เสลานนท์ กสทช.จะต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจในครั้งนี้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยเช่นกัน.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ