เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจเรา

แนวโน้ม ราคาน้ำมันในตลาดโลก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่าง น่าใจหาย ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบ ตลาดเบรนท์ สัปดาห์นี้ อยู่ที่ 93.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล บวกขึ้น 6.61 ดอลลาร์ ตลาดเวสท์เท็กซัสฯ 87.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล บวกขึ้น 8.18 ดอลลาร์ ตลาดดูไบ 91.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล บวกขึ้น 5.08 ดอลลาร์ น้ำมันสำเร็จรูป เบนซิน ออกเทน 95 อยู่ที่ 93.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.42 ดอลลาร์ และ ดีเซล 134.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล บวกเพิ่มขึ้นถึง 14.58 ดอลลาร์ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก การลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร คาดว่าตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ราคาน้ำมันจะกลับมาแตะที่ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง

มีความเห็นของ Janet Yellen รมว.คลังสหรัฐฯ มองว่าการลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของ OPEC ไม่เหมาะสมและไม่เป็นผลดี กับเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา เช่นเดียวกับการคาดการณ์ของ Morgan Stanley ตลาดเบรนท์จะปรับราคาน้ำมันดิบมาอยู่ที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาสแรกของปี 2566 แม้จะคาดการณ์ว่าอุปสงค์อุปทานในการใช้น้ำมันจะลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกถดถอย แต่สำหรับภาคครัวเรือนแล้ว ในช่วงฤดูหนาวมีความจำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะกลับมาเป็นภาระของภาครัฐอยู่ดี

บ้านเรามี ภาระหนี้สินในกองทุนพลังงาน และ กองทุนชดเชย ค่าไฟฟ้า ไม่น่าจะต่ำกว่า 2 แสนล้านไปแล้ว เพดานการกู้เงินของภาครัฐก็ใกล้ชนเพดานเต็มที ถ้าไม่แก้ระเบียบน่าจะเกินเพดานไปนานแล้ว

ขณะที่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกออกมาแล้ว ในปี 2566 ยังมีความกังวลกับอัตราเงินเฟ้อ การแพร่ระบาดของโควิด-19 สงครามยูเครน-รัสเซีย และผลกระทบจากภาวะโลกร้อนต่อเศรษฐกิจในทุกทวีป ดังนั้น IMF มีการปรับ ตัวเลขการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลก ในปี 2565 และ 2566 มาอยู่ที่ระดับ ร้อยละ 3.2 และ 2.9 ตามลำดับ

คริสตาลินา จอร์เจียวา ผอ.ไอเอ็มเอฟ และ เดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลก ออกโรงเตือนเองว่าเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงและอันตรายอย่างแท้จริงที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับภาวะถดถอยในปีหน้า

ถ้าเป็นบ้านเราคือ ปีหน้าเผาจริง

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง อยู่ระหว่างการร่วมประชุม เวิลด์แบงก์และไอเอ็มเอฟ เพื่อถกแนวทางในการรับมือกับเศรษฐกิจโลกถดถอยที่ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐฯ โดยเฉพาะผลกระทบกับประชากรโลกในเรื่องของน้ำมันและอาหาร จะเป็นเรื่องใหญ่ รวมไปถึงความเสี่ยงจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ดังนั้น ความเชื่อมั่นเดิมๆ เรื่องที่เรา เปิดการท่องเที่ยว แล้วจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัว

จึงเป็นแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น

อิสมาอิล ซาบรี นายกฯของมาเลเซีย ประกาศยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งก่อนสิ้นปีนี้ โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศและให้มั่นใจในกระบวนการประชาธิปไตยที่จะดำเนินไปอย่างราบรื่นในการสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและสร้างรัฐบาลที่เข้มแข็งมั่นคงเป็นที่เคารพนับถือ จบข่าว.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th