"หวยดิจิทัล" สุดฮอต 2 วัน 8 ล้านใบ กลุ่มผู้ค้าปลีก-เดือด! ร้องศาลปกครองกลาง

“ลวรณ แสงสนิท” ประธานบอร์ดสลากกินแบ่งรัฐบาล เผยเตรียมเพิ่มสลากฯดิจิทัลเข้าระบบให้เพียงพอต่อความต้องการ ส่วนจะเพิ่มถึง 20 ล้านใบภายในสิ้นปีนี้หรือไม่ต้องรอพิจารณาอย่างรอบคอบ ขณะที่ชมรมผู้ค้าสลากเสรีแห่งประเทศไทย พร้อมเครือข่ายหอบหลักฐานยื่นฟ้องกองสลากฯ คณะกรรมการบริหารสำนักงานสลากฯ และ ผอ.สำนักงานสลากฯต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอระงับการขายสลากผ่านระบบออนไลน์และขยายการค้าสลากกว่า 2,000 จุดทั่วประเทศ ยอดหวยดิจิทัล 2 วัน เหลืออีกแค่ 8 แสนใบ

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเตรียมเพิ่มสลากดิจิทัลเข้าระบบอีก โดยเมื่อวันที่ 3 ส.ค. นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลเปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯพิจารณาเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัล งวดวันที่ 1 ก.ย.65 อีก 1-1.5 ล้านใบ รวมเป็น 10.1-10.5 ล้านใบ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ขณะนี้ออกประกาศให้ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการสลากดิจิทัล ลำดับที่ 24,501-27,500 ซึ่งมีประมาณ 3,000 คน มารายงานตัวเพื่อทำสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล ในวันที่ 5-6 ส.ค.แล้ว โดยจะทำสัญญาให้ได้รับสลากรายละ 5 เล่มต่องวด และมีอายุสัญญา 1 ปี หากรายใดไม่มารายงานตัวเพื่อทำสัญญาให้ถือว่าสละสิทธิ การพิจารณาเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลมีเป้าหมายให้มีสลากใบละ 80 บาทเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ทั้งนี้ การจำหน่ายสลากดิจิทัลตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ของวันที่ 2 ส.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของงวดปัจจุบันยอดขายอยู่ที่ 7.009 ล้านใบ มีผู้ซื้อ 1.03 ล้านคน จากยอดสลากดิจิทัลทั้งหมด 9.09 ล้านใบ

อีกด้าน ที่ศาลปกครองกลางกลุ่มตัวแทนชมรมผู้ค้าสลากเสรีแห่งประเทศไทย ร่วมกับเครือข่ายคนพิการผู้ค้าสลาก เครือข่ายชมรมผู้ค้าสลากภาคเหนือและตัวแทนผู้สูงอายุ ผู้ถูกตัดสิทธิปี 2565 ที่ได้รับผลกระทบ นำโดยนายประเทืองวุฒิ ลิ้มรสสุคนธ์ ประธานชมรมผู้ค้าสลากเสรีแห่งประเทศไทย นางพัชรี พิชัยอริยุทธ์ เครือข่ายชมรมผู้ค้าสลากภาคเหนือ นายสุภัสนิมิต เลิศพัฒนนันท์ ผู้ประสานเครือข่ายคนพิการผู้ค้าสลาก พร้อมทนายความ เดินทางมายื่นฟ้องสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 คณะกรรมการบริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 2 และ ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 3

จากกรณีที่ผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 ร่วมกันจำหน่ายสลากผ่านระบบออนไลน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และออกมาตรการขยายการค้าสลากกว่า 2,000 จุดทั่วประเทศ ถือเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ทำให้ผู้ค้าสลากรายย่อยส่วนใหญ่เป็นผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ขอให้ศาลพิจารณาไต่สวนฉุกเฉิน มีคำสั่งระงับการดำเนินงานของสำนักงานสลากฯที่เตรียมขยายการค้าสลากกว่า 2,000 จุดทั่วประเทศ ให้สถานีบริการน้ำมัน 2 แห่ง คือ ปตท. และบางจาก รวมทั้งให้สำนักงานสลากฯระงับการขายผ่านระบบออนไลน์เป็นการชั่วคราวจนกว่าสำนักงานสลากฯ จะมีมาตรการกระจายสลากที่เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ รวมทั้งแก้ปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาอย่างเป็นรูปธรรม โดยก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ค้าดังกล่าวเคยไปร้องเรียนในประเด็นดังกล่าวต่อรัฐบาล แต่ก็ไร้ผล จึงมาร้องให้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว พร้อมตรวจสอบตัวแทนจำหน่ายประเภทองค์กรนิติบุคคล ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนที่เป็นต้นตอทำให้สลากแพงเกินราคาหรือไม่ รวมถึงมาตรการของสำนักงานสลากฯในการตรวจสอบสิทธิผู้ค้าว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

เบื้องต้นองค์คณะตุลาการอยู่ระหว่างพิจารณาคำฟ้องและรับฟังคำชี้แจงจากผู้ถูกฟ้อง ว่าจะรับไต่สวนฉุกเฉินเพื่อพิจารณาระงับการขยายการค้าสลากกว่า 2,000 จุดทั่วประเทศ รวมทั้งให้สำนักงานสลากฯระงับการขายสลากผ่านระบบออนไลน์เป็นการชั่วคราว ตามที่กลุ่มผู้ค้าสลากเดินทางมายื่นฟ้องหรือไม่มีรายงานว่าสำหรับยอดการจำหน่ายสลากดิจิทัลจนถึงเวลา 17.00 น. วันที่ 3 ส.ค. มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 8,237,014 ใบ จากผู้ซื้อ 1,226,602 คน ยังคงเหลือสลาก 865,486 ใบ