“อาคม” ลั่น คลังพร้อมเพิ่มทุนในการบินไทย เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% รอลุ้นศาลล้มละลายเคาะแผนฟื้นฟูฉบับใหม่ 14 ส.ค.นี้ หวังกลับมาซื้อขายหุ้นในตลาด หลักทรัพย์โดยเร็ว “เอ็กซิมแบงก์” เผยธุรกิจสายการบินผงกหัวแล้ว ลูกหนี้เริ่มทยอยคืนหนี้แล้ว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ทำให้สถานการณ์ธุรกิจการบินเริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เริ่มมีรายได้ จนต้องยื่นศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอปรับแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทยใหม่ และศาลฯได้นัดพิจารณาแผนฟื้นฟูฉบับใหม่ ในวันที่ 14 ส.ค.65 นี้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้น พร้อมให้สนับสนุนการยื่นปรับปรุงแผนฟื้นฟู เพื่อให้กิจการเดินหน้าต่อไปได้ และกลับเข้ามาซื้อขายในตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้เหมือนเดิมและโดยเร็วด้วย ซึ่งตามเป้าหมายแผนฟื้นฟูฉบับเดิม การบินไทยจะกลับเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯได้อีกครั้งในปี 2568
ส่วนประเด็นการเพิ่มทุนในกิจการการบินไทยนั้น ต้องรอแผนฟื้นฟูฉบับใหม่ก่อนว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร หากต้องเพิ่มทุน กระทรวงการคลังก็พร้อมพิจารณา รวมถึงแปลงหนี้เป็นทุนด้วย เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลัง และหน่วยงานของรัฐ อาทิ ธนาคารออมสิน กองทุนวายุภักษ์ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์ ในการบินไทยให้ได้ไม่น้อยกว่า 40% หากไม่เพิ่มทุน ไม่แปลงสินทรัพย์เป็นทุน สัดส่วนหุ้นของกระทรวงการคลัง และหน่วยงานของรัฐ ก็จะถูกปรับลดลง ซึ่งรัฐบาลไม่ประสงค์ที่จะให้สัดส่วนการถือหุ้นของรัฐลดลงแต่อย่างใด
“ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าการบินไทย ต้องการเงินเพิ่มทุน เติมสภาพคล่องเป็นวงเงินเท่าใด จากเดิมต้องการ 50,000 ล้านบาท ต่อมาได้ปรับลดลงเหลือ 25,000 ล้านบาท และคาดว่าสุดท้ายอาจต้องการเงินเพิ่มทุนไม่เกิน 10,000-12,000 ล้านบาทเท่านั้น เพราะการบินไทยเริ่มกลับมาบิน กลับมาสร้างรายได้แล้ว ถือเป็นสัญญาณที่ดี ดังนั้นรอฟังศาลล้มละลายกลางพิจารณาแผนฟื้นฟูฉบับใหม่ก่อน เมื่อถึงเวลานั้นก็จะทราบวงเงินชัดเจนของการเพิ่มทุน และวงเงินที่กระทรวงการคลังจะต้องเพิ่มทุนด้วย เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้คงเดิม”
ด้านนายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ เอ็กซิมแบงก์ กล่าวว่า ขณะนี้ธุรกิจการบินเริ่มกลับมาคึกคัก เนื่องจากทุกสายการบินทยอยเพิ่มเส้นทางการบิน ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สายการบินต้นทุนต่ำ ที่เป็นลูกหนี้ของเอ็กซิมแบงก์ เริ่มทยอยชำระหนี้ตามข้อตกลงแล้ว ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวธุรกิจการบิน เพราะท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคัก และยังทำให้เอ็กซิมแบงก์ นำเงินไปช่วยเหลือธุรกิจอื่นต่อไป
สำหรับสายการบินที่เอ็กซิมแบงก์ ได้ให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชีย, บางกอกแอร์เวย์ส, เวียตเจ็ท, การบินไทย, ไทยสมายล์ โดยการช่วยเหลือนั้น เน้นการจ่ายเงินเพื่อรักษาการจ้างงาน พนักงานการบิน และพนักงานที่จำเป็นต้องทำงานต่อนื่อง หากเปิดประเทศจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการการบินได้ทันที โดยปล่อยกู้ไปราว 6,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการฟื้นตัวของธุรกิจส่งผลให้การบินไทยมีกระแสเงินสด สะสมในปัจจุบันกว่า 10,000 ล้านบาท ทำให้ผู้บริหารแผนประเมินว่าเงินทุนใหม่เพื่อบริหารกิจการช่วงฟื้นฟูกิจการไม่จำเป็นต้องสูงถึง 50,000 ล้านบาท โดยจะลดกรอบวงเงินจัดหาทุนใหม่เหลือ 25,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้การบินไทยต้องเสนอแผนใหม่ต่อศาลล้มละลายกลาง และขอจัดประชุมเจ้าหนี้เพื่ออนุมัติแผนฟื้นฟูฉบับแก้ไข.