นายกิตตินันท์ ยิ่งเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย เปิดเผยถึงการส่งออกของไทยไปรัสเซียว่า ตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ.65 ที่รัสเซียเริ่มใช้ปฏิบัติการทางทหารกับยูเครน จนทำให้นานาชาติใช้มาตรการ คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การส่งออกสินค้าไทยไปรัสเซียหดตัวอย่างรุนแรง โดยเดือน มี.ค.65 มูลค่าส่งออกอยู่ที่ 22.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบถึง 73.02% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันปีก่อน ส่วนช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.65 มีมูลค่า 207.80 ล้านเหรียญฯ ลดลง 6.56% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เดือน เม.ย.65 มูลค่าเหลือเพียง 16.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบหนักถึง 76.77% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และช่วง 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) ปี 65 มูลค่า 224.40 ล้านเหรียญฯ ติดลบเพิ่มขึ้นเป็น 23.64%
สำหรับเดือน เม.ย.65 สินค้าส่งออก 10 อันดับแรกของไทยไปรัสเซีย ที่มีสัดส่วนสูงถึง 65.38% ของสินค้าส่งออกของไทยทั้งหมดไปรัสเซีย มีอัตราหดตัวสูงถึง 40.84% จากการหดตัวของผลิตภัณฑ์ยาง 65.88%, แผงสวิตช์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า 51.73%, ยางพารา 57.97%, น้ำมันสำเร็จรูป 12.02% และผลไม้กระป๋องและแปรรูป 75.38% ส่วนรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ที่เคยครองสัดส่วนมูลค่าส่งออกสูงสุดมาโดยตลอด แต่เดือน เม.ย.กลับไม่อยู่ใน 10 อันดับแรก และมีอัตราหดตัวสูงถึง 97.59% เพราะรถยนต์ทุกประเภทแทบไม่มีมูลค่าส่งออกปรากฏอยู่เลย มีเพียงส่วนประกอบ และอุปกรณ์ ที่ยังมี มูลค่าอยู่น้อยมากที่ 0.5 ล้านเหรียญฯ
“นับจากที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน มูลค่าส่งออกไทยไปรัสเซียเดือน มี.ค.65 ลดลงอย่างเฉียบพลันถึง 73% และเพิ่มเป็น 77% ในเดือน เม.ย. คาดว่าภาวะวิกฤตินี้ยังไม่คลี่คลายในเร็วๆนี้ สินค้าหลักทุกหมวดได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การเข้าถึงเงินสกุลหลัก การขาดแคลนชิ้นส่วนผลิต ที่สำคัญคือ ปัญหาการขนส่งสินค้า ที่เป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตร ทำให้คาดว่าการส่งออกไทยไปรัสเซียในปีนี้จะติดลบมากถึง 55% แต่ถ้าการขนส่งกลับมาปกติ การส่งออกจะกลับมาเป็นปกติเช่นกัน”.