นางซีรีน เกย์ ผู้จัดการวีซ่าประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยผลการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปีของวีซ่า พบว่าการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด การช็อปปิ้งออนไลน์ และการเที่ยวล้างแค้น คือ 3 เทรนด์ผู้บริโภคหลักที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังโควิดถูกลดระดับสู่โรคประจำถิ่น โดยผู้บริโภคชาวไทยนำหน้าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ตั้งใจจะใช้จ่ายแบบไร้เงินสดบ่อยครั้งขึ้น 89% ตามด้วยเวียดนาม 83% มาเลเซีย 78% อินโดนีเซีย 78% และฟิลิปปินส์ 78%
“สองปีที่ผ่านมานี้ เรามองเห็นการขับเคลื่อนด้านการค้าดิจิทัล จากการที่ผู้บริโภคมองหาวิธีการชำระที่รวดเร็ว ปลอดภัย และสะดวกสบายยิ่งขึ้น เมื่อประเทศต่างๆในภูมิภาคนี้เปิดพรมแดนอีกครั้ง จึงถือเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับธุรกิจที่จะปรับตัวและเปิดรับเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่วิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ การปิดร้านค้าในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด ทำให้เกิดการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางใหม่ๆมากมาย โดยมากกว่าครึ่งหรือ 55% ของผู้บริโภคชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เคยลองช็อปปิ้งออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์เป็นครั้งแรก ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในประเทศอินโดนีเซีย 72% เวียดนาม 66% และไทย 65% สำหรับด้านการท่องเที่ยวนั้น แนวโน้มของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “เที่ยวล้างแค้น” จะเกิดขึ้นจากความต้องการที่อั้นไว้ก่อนหน้าของผู้คนที่อยากจะกลับมาเดินทางท่องเที่ยวอย่างเสรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทย โดยจากการศึกษาของวีซ่าครั้งนี้พบว่า เกือบครึ่งหรือ 46% ของผู้บริโภคชาวไทย น่าจะมีการเดินทางไปเที่ยวยังต่างแดนในปีหน้า ตามด้วยผู้บริโภคของสิงคโปร์ 41% และฟิลิปปินส์ 38%