ผลความรับผิดทางละเมิด “แก๊งถุงมือยาง” แสนล้าน ถึงมือ “คลัง” แล้ว สรุปมีคนต้องชดใช้ความเสียหาย 7 คน รวม 2,003 ล้านบาท รอคลังเคาะอีกครั้งก่อนส่งไม้ต่อ อคส.เรียกเงินชดใช้ ส่วน “บอร์ด” อคส.ชุดเก่า หมดวาระแล้วเมื่อปลายปี 64 ล่าสุดอยู่ระหว่างตั้งชุดใหม่ ส่วน ปปช.-ปปง.จ่อเอาผิดอาญา-แพ่งต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณารับความผิดทางละเมิด ที่มีนายวันชัย วราวิทย์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ได้พิจารณาความรับผิดทางละเมิดของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาทเสร็จสิ้น และได้ส่งให้ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) แล้ว และ อคส.ได้ส่งต่อไปยังกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่พิจารณาความรับผิดทางละเมิด ของผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายกับหน่วยงานภาครัฐแล้ว ส่วนจะเห็นชอบตามที่เสนอไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลังจะพิจารณา
สำหรับผลการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดนั้น อคส.ได้เสนอ 2 ประเด็นให้กระทรวงการคลังพิจารณา คือ จำนวนผู้ที่จะต้องชดใช้ความเสียหายให้ อคส. ทั้งหมด 7 คน ซึ่งมีทั้งผู้ที่จงใจทำให้ อคส. เสียหาย และประมาทเลินเล่อจนทำให้ อคส. เสียหาย รวมถึงมูลค่าความเสียหายรวมดอกเบี้ยของ อคส. ทั้งสิ้น 2,003 ล้านบาท ส่วนบอร์ดชุดเก่า ณ วันที่มีการกระทำความผิด และความเสียหายเกิดขึ้น จะต้องชดใช้ความเสียหายให้ อคส.ด้วยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงการคลัง
นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า ตามขั้นตอน เมื่อ อคส.ส่งผลการสอบความรับผิดทางละเมิดไปแล้ว กระทรวงการคลังจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาตามสิ่งที่ อคส.เสนอไป ซึ่งอาจเห็นชอบตามที่เสนอ หรืออาจเห็นแย้ง เพราะเห็นว่าอาจมีคนต้องชดใช้ความเสียหายให้กับ อคส.เพิ่มเติมอีกก็ได้ เมื่อกระทรวงคลังพิจารณาเสร็จ จะส่งเรื่องกลับมาให้ อคส.เพื่อดำเนินการให้ผู้ที่ต้องรับผิดทางละเมิดชดใช้ความเสียหายให้กับ อคส.
สำหรับการเอาผิดคดีอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น ต้องรอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดก่อน เมื่อชี้มูลแล้วจะส่งเรื่องให้อัยการฟ้องร้องดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะเดียวกัน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะพิจารณาคดีทางแพ่ง และดำเนินการให้ทั้งหมดชดใช้ความเสียหาย ให้ อคส. หากไม่มีเงินจ่ายก็ต้องยึดทรัพย์ มั่นใจว่า อคส.จะได้รับเงิน 2,000 ล้านบาท ที่ได้มีการถอนออกจากบัญชีของ อคส.ไปจ่ายเป็นค่ามัดจำสินค้าให้กับบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ จำกัด คู่สัญญาที่ อคส.ว่าจ้างผลิตถุงมือยางได้ครบถ้วน รวมดอกเบี้ยด้วยแน่นอน
ส่วนการพิจารณาเอาผิดเพิ่มเติมกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง นอกเหนือจาก พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส. และพรรคพวก ซึ่งเป็นผู้ร่วมจัดทำโครงการนี้ และคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) อคส.ได้พิจารณาโทษทางวินัยร้ายแรงคือให้ไล่ออกไปแล้วนั้น ขณะนี้คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง อยู่ระหว่างการพิจารณา คาดว่าจะเสร็จในเร็วๆนี้ จากนั้นจะตั้งคณะกรรมการพิจารณาโทษทางวินัยต่อไป
นายเกรียงศักดิ์กล่าวต่อถึงคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) อคส. ชุดที่มีนายสุชาติ เตชจักรเสมา เป็นประธานว่า หมดวาระลงแล้วตั้งแต่เดือน ธ.ค.64 ตนได้ส่งรายชื่อบอร์ดชุดใหม่ไปให้คณะกรรมการกลั่นกรองของสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาแล้ว จากนั้นจะเสนอต่อไปยังคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อเห็นชอบแล้ว ตนจะเสนอให้รมว.พาณิชย์ พิจารณาและเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาสุดท้าย คาดว่าจะได้บอร์ดชุดใหม่ในเร็วๆนี้.