คลังแจง พ่อค้าแม่ค้าโดนเรียกคืนเงินใน โครงการเราชนะ ทำเรื่องอุทธรณ์ได้

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

คลังแจง พ่อค้าแม่ค้าโดนเรียกคืนเงินใน โครงการเราชนะ ทำเรื่องอุทธรณ์ได้

Date Time: 11 ต.ค. 2564 13:29 น.

Video

โมเดลธุรกิจ Onlyfans ทำไมถึงมีแต่ได้กับได้ ? บริษัทมั่งคั่ง คนทำก็รวย | Digital Frontiers

Summary

  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แจง พ่อค้าแม่ค้าโดนเรียกคืนเงินในโครงการเราชนะ ทำเรื่องอุทธรณ์ได้ พร้อมเผย 3 ขั้นจัดการ หลังพบคนหัวใสฝ่าฝืนเงื่อนไขโครงการ

Latest


สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แจง พ่อค้าแม่ค้าโดนเรียกคืนเงินในโครงการเราชนะ ทำเรื่องอุทธรณ์ได้ พร้อมเผย 3 ขั้นจัดการ หลังพบคนหัวใสฝ่าฝืนเงื่อนไขโครงการ

จากกรณีชาวโซเชียลได้ติด #เรียกเงินคืนโครงการรัฐ หลังพ่อค้าแม่ค้าได้หนังสือทวงเงินจากโครงการเราชนะ คนละครึ่ง และ ม.33 เพราะทำผิดเงื่อนไข ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 64 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยระบุว่า โครงการเราชนะ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และมีส่วนช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนและผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท

โดยมีประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์ จำนวน 33.2 ล้านคน จะได้รับเงินช่วยเหลือจำนวนไม่เกิน 9,000 บาท ตลอดโครงการ ด้วยการใช้จ่ายกับผู้ประกอบการร้านค้าในโครงการ 1.3 ล้านราย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แอปพลิเคชันเป๋าตัง และบัตรประจำตัวประชาชน

ทั้งนี้ โครงการเราชนะ ได้มีการประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือให้ประชาชนและผู้ประกอบการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ มาโดยตลอด รวมถึงขอให้ประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการฯ สามารถแจ้งเบาะแสและส่งหลักฐานการกระทำที่ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขโครงการฯ ให้ สศค. ทราบ และได้มีประชาชนส่งเบาะแสและหลักฐานมาให้ ซึ่ง สศค.จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายสำหรับผู้ที่กระทำผิดหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของ โครงการเราชนะต่อไป

อย่างไรก็ตาม สศค.ได้กำหนดแนวทางเพื่อควบคุมและป้องกันการกระทำผิดวัตถุประสงค์ของ โครงการเราชนะ อย่างเข้มงวด เพื่อรักษาสิทธิ์ของประชาชนที่ได้รับในโครงการฯ และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ใน โครงการเราชนะ ที่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และคำยินยอม หรือ Consent ที่ได้ตกลงไว้ จึงได้จัดตั้งคณะทำงานพิจารณาตรวจสอบข้อมูลและเรื่องร้องเรียนสำหรับโครงการเราชนะ

ทั้งนี้ เพื่อติดตามตรวจสอบการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ อย่างใกล้ชิด ในกรณีที่พบการกระทำที่ฝ่าฝืน เช่น การรับแลกวงเงินสิทธิ์เป็นเงินสด เป็นต้น ก็จะดำเนินการระงับสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการฯ และร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขยายผลการสืบสวนสอบสวนต่อไป

สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานกับผู้ที่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการฯ มีดังนี้

1. การระงับสิทธิ์ชั่วคราวการใช้แอปพลิเคชันถุงเงิน เมื่อพบพฤติกรรมที่ผิดปกติในธุรกรรมการใช้จ่าย เช่น จุดรับเงินของแอปพลิเคชันถุงเงินขยับไปมาระยะไกล ธุรกรรมเต็มจำนวนวงเงินสิทธิ์เป็นจำนวนมาก เป็นต้น และแจ้งให้ผู้ประกอบการให้ติดต่อกลับเพื่อชี้แจงโต้แย้งภายใน 14 วัน ซึ่งเมื่อครบกำหนดแล้วจะนำเอกสารชี้แจงโต้แย้งของผู้ประกอบการที่ได้รับเข้าสู่การพิจารณาของคณะทำงานฯ

2. เมื่อได้พิจารณาเอกสารหลักฐานของผู้ประกอบการแล้วเห็นว่า ผู้ประกอบการกระทำการฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าวจริง หรือกรณีที่ผู้ประกอบการไม่ชี้แจงโต้แย้งพร้อมส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องภายในระยะเวลาที่กำหนด จะได้มีหนังสือประทับตราแจ้งผลวินิจฉัยและขอให้ชำระเงินคืนให้แก่โครงการฯ และผู้ประกอบการสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือประทับตรา ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนดังกล่าวนี้

3. เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามข้อ 2 แล้ว กรณีไม่มีการชี้แจงหรือข้อมูลหลักฐานประกอบการอุทธรณ์ หรือไม่มีการชำระเงินคืนให้แก่โครงการฯ รวมถึงกรณีอุทธรณ์มา แต่คณะทำงานฯ พิจารณาแล้วเห็นว่ายังมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการฯ ก็จะได้มีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการอีกครั้ง โดยหากผู้ประกอบการยังไม่ชำระเงินคืน ก็จะต้องดำเนินการเรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการต่อไป

ทั้งนี้ โครงการฯ ได้ระงับสิทธิ์ถาวรผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ แล้ว จำนวน 2,099 ราย และได้ออกหนังสือประทับตราแจ้งผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเราชนะ เพื่อคืนเงินที่ได้รับ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดให้ผู้ประกอบการขออุทธรณ์ได้ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือประทับตรา (ขั้นตอนตามข้อ 2)

ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ของท่าน จึงขอให้ผู้ประกอบการชี้แจงเหตุผล พร้อมยื่นเอกสาร หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อ สศค. ภายในระยะเวลาที่กำหนด (เช่น ใบเสร็จรับเงินเพื่อแสดงต้นทุนสินค้า หลักฐานการจัดส่งสินค้า เอกสารแสดงสินค้าคงคลัง รวมถึงภาพถ่ายสถานประกอบการ เป็นต้น) เพื่อนำสู่กระบวนการพิจารณาของคณะทำงานฯ และกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป

สำหรับผู้ที่ประสงค์จะส่งเอกสารหรือหลักฐาน หรือกรณีมีความจำเป็นต้องรวบรวมเอกสารและหลักฐานก็อาจขอขยายเวลาการจัดส่ง โดยจัดทำคำร้องพร้อมชี้แจงเหตุผล โดยส่งมาทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400 หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ wewin@fpo.go.th


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ