โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมปรับแผนจ้างงานฝ่าโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบผลการประชุมของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ถึงโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปรับการจ้างงานเพิ่มเติมทดแทนในพื้นที่ที่ยังจ้างได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ระยะเวลา 4 เดือน (ก.ย.-ธ.ค.) จำนวน 20,373 อัตราต่อเดือน

ล่าสุด ผลการดำเนินงานเพื่อจ้างงานประชาชนทั่วไป บัณฑิต และนักศึกษา ณ เดือน ก.ค. พบว่า มีการจ้างงาน 60,000 คนต่อเดือน เป็นการจ้างงานในพื้นที่ 3,000 ตำบล ตำบลละ 20 คน จำนวน 9 ภูมิภาค เป็นเวลา 12 เดือน รวม 720,000 อัตรา แบ่งสัดส่วนการจ้างงาน คือบัณฑิตจบใหม่ 50% อัตรา 15,000 บาทต่อเดือน นักศึกษา 25% อัตรา 5,000 บาทต่อเดือน ประชาชนทั่วไป 25% อัตรา 9,000 บาทต่อเดือน โดยผลการดำเนินการจนถึงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีการจ้างงาน รวม 338,506 อัตรา และมีอัตราที่ได้รับกรอบการจ้างงานตามที่ยังไม่ได้จ้างงาน เนื่องจากบางพื้นที่เป็นพื้นที่ห่างไกล ฯลฯ ล่าสุด มีจำนวนการจ้างงานที่ยังไม่ได้จ้างในเดือน ก.ย.-ธ.ค. คิดเป็น 20,373 อัตราต่อเดือน

ดังนั้น จึงต้องปรับแผนการจ้างงานเพิ่มทดแทน ในพื้นที่ที่ยังจ้างงานได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ในช่วงโควิด-19 ในชุมชนและ พื้นที่รับผิดชอบ ในส่วนของโฮมไอโซเลชัน หรือคอมมูนิวตี้ไอโซเลชัน หรือภารกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง จำนวน 20,373 อัตราต่อเดือน โดยมีหลักการว่า กรณีพื้นที่ที่มีข้อจำกัด ที่ไม่สามารถจ้างงานเพิ่มได้ ให้เกลี่ยอัตราไปยังพื้นที่อื่นในความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัย หรือกรณีมหาวิทยาลัยไม่สามารถจ้างเพิ่มได้ให้เกลี่ยอัตราไปยังมหาวิทยาลัยในพื้นที่ใกล้เคียงตามแผนดำเนินงาน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ผลักดันหลายๆโครงการที่เป็นการจ้างงาน เช่น โครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการที่เป็นการจ้างงานเพื่อจัดเก็บข้อมูลและบันทึกข้อมูล ในระดับตำบล เพื่อนำมาสร้างแพลตฟอร์มให้หลายภาคส่วน เข้ามาดูข้อมูลแต่ละพื้นที่ ที่มีเวลาดำเนินการวันที่ 1 ต.ค.2563-30 ก.ย.2564 และได้จ้างงานประชาชนที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีรวม 7,255 ตำบล ตำบลละ 2 อัตรา รวม 14,510 อัตรา (ครอบคลุม 878 อำเภอ ในพื้นที่ 76 จังหวัด) อัตราจ้างเหมา 15,000 บาทต่อเดือน.