นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ได้รายงานที่ประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่มีนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานรับทราบแนวทางช่วยผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้สิน โดย สคบ. กำลังปรับปรุงประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคที่เป็นลูกหนี้ในสัญญาเช่าซื้อทุกประเภท โดยเฉพาะสัญญาเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ หลังพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 รายได้ลดลงจนหมดกำลังในการผ่อนจ่ายค่าสินค้าต่างๆ ซึ่งแนวทางการช่วยเหลือผ่านการปรับปรุงกฎหมายครั้งนี้น่าจะได้ข้อสรุปเดือน ก.ย.นี้
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือ แบ่งออกเป็นการช่วยเหลือเรื่องสัญญาเช่าซื้อในด้านต่างๆ เช่น การปรับปรุงอัตราดอกเบี้ยของธุรกิจเช่าซื้อ ที่ผ่านมาไม่มีกฎหมายหรือหน่วยงานใดเข้ามากำกับดูแลในเรื่องดอกเบี้ยของธุรกิจเช่าซื้อเป็นการเฉพาะ ทำให้ไม่มีการกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ จึงเป็นช่องให้มีการคิดดอกเบี้ยที่สูงเกินจริงจนเป็นภาระต่อผู้บริโภค สคบ. จึงได้หารือกับหน่วยงานต่างๆ และเตรียมออกกฎหมายภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ประกาศเรื่องของเพดานการคิดอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมออกมา
นอกจากนี้ จะกำหนดอัตราของเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้บริโภคผิดสัญญา ให้สอดคล้องกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมในมาตรา 224/1 และมาตรา 7 ซึ่งกำหนดแนวทางในเรื่องนี้เอาไว้อย่างชัดเจน รวมทั้งการปรับปรุงแนวทางในการขายทอดตลาด เช่น การกำหนดให้ผู้เช่าซื้อมีส่วนร่วมในการกำหนดราคาเริ่มต้นในการขายทอดตลาด หรือกรณีที่มีการยึดและขายทอดตลาดแล้ว หากได้จำนวนเงินน้อยกว่ามูลหนี้ที่ค้างชำระ ซึ่งเดิมกำหนดให้ผู้เช่าซื้อรับผิดชอบในส่วนที่ขาด แต่แนวทางใหม่ที่ออกมา
เบื้องต้น อาจเปิดทางให้ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ หลังจากถูกยึดรถไปแล้วเพราะถือว่าสิ้นสุดสัญญาพร้อมกันนี้ ยังให้สิทธิผู้บริโภคในการคืนรถยนต์และจักรยานยนต์กับผู้ให้เช่าซื้อได้เพื่อเป็นการยกเลิกสัญญาในทันที แต่ก็ต้องมาตกลงเรื่องของหนี้ที่ค้างชำระต่างๆ เช่น ค่างวด ค่าปรับ และค่าทวงถามให้เสร็จสิ้น หรือในกรณีรถเสื่อมค่า มีรอย หรือเกิดอุบัติเหตุทำให้เสียหาย ผู้ให้เช่าซื้อก็อาจพิสูจน์ความเสียหาย และสามารถเรียกค่าเสียหายจากส่วนนี้ได้ แต่ต้องเป็นไปตามความเหมาะสม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนเรื่องของการทวงถามหนี้ ที่ผ่านมาได้รับข่าวดีว่า กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศแนวทางการดูแลเรื่องการทวงถามหนี้ รวมทั้งการคิดค่าธรรมเนียมต่างๆ ออกมาแล้ว ซึ่งจะช่วยเหลือและลดภาระให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างมาก.