ครม.อัดเยียวยาเพิ่ม 3 หมื่นล้าน ขยายเงินช่วยเหลือ 29 จังหวัดควบคุมสูงสุด

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ครม.อัดเยียวยาเพิ่ม 3 หมื่นล้าน ขยายเงินช่วยเหลือ 29 จังหวัดควบคุมสูงสุด

Date Time: 4 ส.ค. 2564 07:05 น.

Summary

  • ครม.เห็นชอบขยายวงเงินเยียวยานายจ้างลูกจ้างจากกรอบเดิม 30,000 ล้านบาทเป็น 60,000 ล้านบาท เพิ่มการช่วยเหลือเป็น 29 จังหวัดสีแดงเข้ม

Latest

บิ๊กแบรนด์อสังหาฯ ท็อปฟอร์ม สวนตลาด โกยรายได้แสนล้าน 9 เดือน กำไรพุ่ง 1.7 หมื่นล้าน


ครม.เห็นชอบขยายวงเงินเยียวยานายจ้างลูกจ้างจากกรอบเดิม 30,000 ล้านบาทเป็น 60,000 ล้านบาท เพิ่มการช่วยเหลือเป็น 29 จังหวัดสีแดงเข้ม โดย 13 จังหวัดเดิมขยายการช่วยเหลือจากเดิม 1 เดือนเป็น 2 เดือน ในเดือน ก.ค.-ส.ค. และ 16 จังหวัดใหม่ ได้รับการช่วยเหลือ 1 เดือน สั่งดูแลแท็กซี่ พี่วิน อายุมากกว่า 65 ปี พร้อมอนุมัตินำเงินกู้โควิดช่วยเหลือผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษา 31,905 ล้านบาท

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขยายขอบเขตมาตรการบรรเทาผลกระทบผู้ประกอบการและแรงงาน ใน 9 สาขาอาชีพ อันเนื่องมาจากข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 30) ที่ได้ปรับปรุงเขตพื้นที่ควบคุม สูงสุดและเข้มงวด เพิ่มเติมจากข้อกำหนดฯฉบับที่ 28 จากเดิม 13 จังหวัดเป็น 29 จังหวัด โดยจังหวัดที่เพิ่มเติมอีก 16 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง โดยจังหวัดที่เพิ่มเติมนี้จะได้รับ การเยียวยาบนหลักการเดิมเป็นเวลา 1 เดือน

ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการและแรงงานใน 13 จังหวัดแรก ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม จากเดิมการให้ความช่วยเหลือกำหนดไว้ในเดือน ก.ค.2564 เพียง 1 เดือน ได้ขยายเป็นให้ความช่วยเหลือเพิ่มในเดือน ส.ค.อีก 1 เดือน เป็น เดือน ก.ค.-ส.ค. รวม 2 เดือน ซึ่งรวมถึงกรณีผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่เดิมได้รับการช่วยเหลือ 1 เดือน 5,000 บาท ก็จะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มอีก 1 เดือน รวมเป็นเงิน 10,000 บาท โดย ครม.ได้ขยายกรอบวงเงินการให้ความช่วยเหลือ จากเดิม 30,000 ล้านบาท เป็น 60,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ครม.ยังได้มอบหมายให้ กระทรวงคมนาคม จัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถแท็กซี่ และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม ซึ่งไม่สามารถรับความช่วยเหลือได้ ให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างครอบคลุมและทั่วถึงในพื้นที่ทั้ง 29 จังหวัด โดยพิจารณาจากฐานข้อมูลการจดทะเบียนอนุญาตผู้ขับขี่รถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่สามารถยืนยันตัวตนตรวจสอบได้ และนำเสนอ ครม.อีกครั้งหนึ่ง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ครม.ครั้งนี้ยังได้เห็นชอบตามคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ เสนออนุมัติใช้เงินจาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ฉบับเพิ่มเติม รวม 31,905 ล้านบาท เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ด้านการศึกษาให้กับผู้ปกครอง นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในภาคการศึกษาที่ 1/2564 ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาหลักการของ ครม.ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน

โดยได้อนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการ 21,905 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ปกครองหรือนักเรียน 2,000 บาทต่อคน รวม 10.95 ล้านคน ทั้งนี้ ให้หน่วยงานต้นสังกัดสถานศึกษารับผิดชอบโครงการ จัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายสัปดาห์ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำหน้าที่เบิกจ่ายแทนกันให้สถานศึกษาในสังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล รวมทั้งให้สถานศึกษาของรัฐเบิกค่าใช้จ่ายในการจัดการเรียนการสอนเพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากแหล่งเงินอื่นๆ เช่น เงินกองทุนต่างๆ เงินงบประมาณรายจ่าย งบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และแหล่งเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ส่วนวงเงินอีก 10,000 ล้านบาทอนุมัติให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดทำโครงการลดภาระค่าใช้จ่ายของนิสิต นักศึกษา ด้วยการลดค่าเล่าเรียนและค่า ธรรมเนียมการศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน โดยให้พิจารณากลไกการตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และให้จัดทำความ ต้องการจ่ายเป็นรายสัปดาห์ เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ จัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายโครงการตามแผนการใช้จ่ายเงินที่เกิดขึ้นจริง สำหรับจำนวนนักศึกษาที่อยู่ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ มีจำนวน 1.5 ล้านราย และสถาบันการศึกษาเอกชน 258,000 ราย.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ