วิทยุการบินฯ แจง 7 สายการบิน โปรดเห็นใจหนักไม่แพ้กัน เพราะขาดสภาพคล่อง

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

วิทยุการบินฯ แจง 7 สายการบิน โปรดเห็นใจหนักไม่แพ้กัน เพราะขาดสภาพคล่อง

Date Time: 22 ก.ค. 2564 12:57 น.

Video

เศรษฐกิจไทย เสี่ยงวิกฤติหนักแค่ไหน เมื่อต้องเปลี่ยนนายกฯ | Money Issue

Summary

  • วิทยุการบินฯ ชี้แจงกรณี 7 สายการบิน บอกที่ยกเว้นหนี้สินให้ไม่ได้ เพราะหนักไม่แพ้กัน ปี 64 มีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายกว่า 6,600 ล้าน คาดปัญหานี้จะกินเวลานานถึงปี 65 ต้องหาเงินกู้เสริมสภาพคล่อง

Latest


วิทยุการบินฯ ชี้แจงกรณี 7 สายการบิน บอกที่ยกเว้นหนี้สินให้ไม่ได้ เพราะหนักไม่แพ้กัน ปี 64 มีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายกว่า 6,600 ล้าน คาดปัญหานี้จะกินเวลานานถึงปี 65 ต้องหาเงินกู้เสริมสภาพคล่องเช่นกัน

จากกรณีที่ ผู้ประกอบการสายการบินภายในประเทศ 7 สายการบิน ได้รวมกันยื่นข้อเสนอ และขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลในการขอสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือ Soft Loan พร้อมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งของ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ทั้งเว้นการจัดเก็บค่าบริการขึ้น-ลงอากาศยาน รวมถึงค่าจอด-ค่าปรับออกไปก่อน เพื่อให้สายการบินอยู่ได้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 64 นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด บวท. กล่าวว่า จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ต่อเนื่องมานับตั้งแต่ต้นปี 63 และมีแนวโน้มการระบาดที่รุนแรงขึ้น ทำให้ภาครัฐต้องดำเนินการเพื่อควบคุมการระบาดอย่างรัดกุม ที่มา บวท. ได้ให้ความร่วมมือภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ตามมติคณะกรรมการการบินพลเรือน มาตลอด

โดย มาตรการช่วยเหลือสายการบิน ประกอบด้วย 1.ตั้งแต่เดือน มี.ค.-ก.ย. 63 บวท. ได้ยกเว้นค่าปรับจากการชำระล่าช้าของสายการบิน ผู้ถือหุ้นสำหรับค่าบริการควบคุมจราจรทางอากาศ และกลุ่มลูกค้าธุรกิจการบินสำหรับค่าเช่าและค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์สื่อสาร ซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 24 ล้านบาท

2. ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ธ.ค. 63 ได้ปรับลดค่าบริการการเดินอากาศลง 50% สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ และ 20% สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 500 ล้านบาท

3. ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มิ.ย. 64 บวท. เรียกเก็บค่าบริการสำหรับเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศเต็มจำนวน โดยเรียกเก็บเพียง 50% ก่อน และขยายเวลาชำระหนี้ในส่วนที่เหลืออีก 50% ออกไปเป็นระยะเวลา 6 รอบบิล ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของวิทยุการบินฯ ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เราได้ให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินอย่างเต็มกำลังความสามารถ ภายใต้สภาพคล่องที่มีอยู่อย่างจำกัด

ปัจจุบัน วิทยุการบินแห่งประเทศไทย เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เนื่องจากรายได้หลักของวิทยุการบินฯ มาจากการให้บริการการเดินอากาศ เมื่อปริมาณเที่ยวบินลดลงอย่างต่อเนื่อง รายได้จึงลดลงเช่นกัน ทั้งนี้แม้ว่า วิทยุการบินฯ จะมีมาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายในองค์กร ที่ไม่กระทบต่อภาคความปลอดภัยในการให้บริการแล้วก็ตาม แต่รายได้ก็ยังคงไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

นายทินกร กล่าวต่อว่า จากสถิติการให้บริการจราจรทางอากาศเที่ยวบินพาณิชย์ ที่ทำการบินเข้า-ออก ผ่านน่านฟ้าไทย ตั้งแต่ ต.ค. 63-มิ.ย. 64 มีปริมาณเที่ยวบินลดลง 56 % และหากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปี 62 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ปริมาณเที่ยวบินลดลงสูงถึง 72% จากตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้รายได้ของ วิทยุการบินฯ ลดลงเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ วิทยุการบินฯ ได้คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินในปีงบประมาณ 64 (ต.ค. 63-ก.ย.64) ว่าจะมีปริมาณเที่ยวบินลดลงจากปี 63 ถึง 56% ทำให้ปี 64 บวท. จะมีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายกว่า 6,600 ล้านบาท และจากสถานการณ์การระบาดที่ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง วิทยุการบินฯ คาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบไปถึงปี 65 ประกอบกับสายการบินมีการชำระหนี้เฉลี่ยเพียง 52% ของหนี้ที่ครบกำหนดชำระ

"ปัจจุบันวิทยุการบินฯ ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องเช่นกัน จึงไม่มีความสามารถให้ความช่วยเหลือสายการบินตามมาตรการช่วยเหลือต่อไปได้ โดยเราจำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินกู้ระยะสั้นเพิ่มเติม เพื่อเสริมสภาพคล่องในปี 64-65 ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด ตามกรอบแผนบริหารหนี้ที่ได้รับอนุมัติ"

ทั้งนี้ ตามมติ กบร. ครั้งที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 64 ปัจจุบัน บวท.อยู่ระหว่างรอความชัดเจนเรื่องการขอรับเงินสนับสนุนรัฐวิสาหกิจ (Public Service Obligation: PSO) เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ในขณะเดียวกัน บวท. ยังคงดำเนินการตามมาตรการควบคุมค่าใช้จ่าย และรักษาวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์