จุรินทร์ลงนาม บันทึกเอ็มโอยู พันธมิตรญี่ปุ่น ลุยตลาดอัญมณี

รมว.พาณิชย์ ร่วมลงนาม Mini-FTA ฉบับแรกทางออนไลน์ ภายใต้รูปแบบการลงนามบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยูกับนายกเทศมนตรีเมืองโคฟุ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น สร้างความสัมพันธ์เป็นพันธมิตรอุตสาหกรรมอัญมณี-เครื่องประดับ ตั้งเป้าให้มีมูลค่าทางการค้าไม่ต่ำกว่า 15,500 ล้านบาทภายในปี 64 เป้าหมายต่อไปเล็งไปที่มณฑลไหหลำ ประเทศจีนและรัฐเตลังกานา ประเทศอินเดีย หวังเพิ่มมูลค่าการค้านำเงินเข้าประเทศ

ที่ห้องบุรฉัตรไชยากร สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 12 ก.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นายยูอิชิ ฮิงุชิ นายกเทศมนตรีเมืองโคฟุ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น ร่วมพิธีลงนาม Mini-FTA ฉบับแรกทางออนไลน์ ภายใต้รูปแบบการลงนามบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยูว่าด้วยการเป็นพันธมิตรในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของไทยและเมืองโคฟุ

นายจุรินทร์เปิดเผยว่า ท่ามกลางภาวะวิกฤติโควิดและวิกฤติเศรษฐกิจของโลก การส่งออกของไทยระหว่างเดือน ม.ค.-พ.ค.64 สามารถทำรายได้รวมมูลค่า 3.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.78 เปอร์เซ็นต์ การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่ารวม 67,578 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เครื่องประดับเงินของไทยมียอดส่งออกเป็นอันดับที่ 1 ของโลก และพลอยสีเป็นอันดับที่ 3 ของโลก ทั้งนี้ การค้าไทย-ญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าที่มีความสำคัญเป็นอันดับ 2 ของไทย และตลาดญี่ปุ่นถือว่าเป็น 1 ใน 6 ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญที่สุดของไทย 5 เดือนแรกของปี 64 ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไปญี่ปุ่นมูลค่า 2,432 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.84 เปอร์เซ็นต์ จึงมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ทางการค้าเชิงลึกกับประเทศต่างๆทั่วโลก

นอกจากระบบการค้าปกติหรือรูปแบบการทำ FTA ที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของไทยกับมณฑลของรัฐหรือเมืองที่มีความสำคัญ เป็นที่มาของพิธีลงนามระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับเมืองโคฟุ ถือเป็นก้าวสำคัญของการเริ่มต้นนโยบายขยายความสัมพันธ์การค้าเชิงลึกของกระทรวงพาณิชย์ประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์ร่วมกัน ประการที่หนึ่ง มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการพัฒนาธุรกิจการผลิตอัญมณีเครื่องประดับทางการตลาดและการถ่ายทอดเทคโนโลยีในส่วนของ SMEs ของทั้งสองฝ่าย เมืองโคฟุเก่งเรื่องเทคโนโลยีการขึ้นตัวเรือน แต่ประเทศไทยเก่งในเรื่องการเจียระไนอัญมณี ประการที่สอง ร่วมมือกันทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกันทั้งในไทยและญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน ประการที่สาม คาดมูลค่าการค้าอัญมณีระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในปี 64 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปี 63 ตั้งเป้าให้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 15,500 ล้านบาท

ขณะที่นายยูอิชิ ฮิงุชิ นายกเทศมนตรีเมืองโคฟุ กล่าวผ่านระบบถ่ายทอดสัญญาณสดจากประเทศญี่ปุ่นว่า เมืองโคฟุมีประชากรราว 190,000 คนถือเป็นศูนย์กลางด้านการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของจังหวัดยามานาชิ เป็นแหล่งผลิตแก้วคริสตัลที่พัฒนาการเจียระไนและแปรรูปจนกลายเป็น ศูนย์กลางแห่งอัญมณีและเครื่องประดับ การลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้จะช่วยเป็นแรงผลักดันพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องประดับของทั้งสองประเทศ

หลังเสร็จพิธี นายจุรินทร์เปิดเผยกับสื่อมวลชนอีกครั้งว่า การลงนามนี้ถือเป็น Mini-FTA ฉบับแรกที่ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์สร้างความสัมพันธ์ทางการค้าเชิงลึก และ Mini-FTA ฉบับต่อไปที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าคือทำกับมณฑลไหหลำ ประเทศจีน และรัฐเตลังกานาของประเทศอินเดีย และอื่นๆ คาดร่วมลงนามได้ในเดือน ส.ค. จากที่ได้พูดคุยกับภาคเอกชน พบในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น มียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ จากที่คาดการณ์ หลังหารือกับภาคเอกชนและกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีความเป็นไปได้ที่ช่วงเปิด “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” อาจจัดการส่งเสริมการขายใน จ.ภูเก็ต บางจุดที่เหมาะสม เพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ประสงค์นำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับจากประเทศไทยเดินทางมาที่ จ.ภูเก็ต ถือเป็นการส่งเสริม “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” และส่งเสริมการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย