นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้หน่วยงานและผู้ที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปศึกษาแผนการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี แคนาดา อิตาลี ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ที่เพิ่งบรรลุข้อตกลงด้านภาษีครั้งประวัติศาสตร์ในการทำให้บริษัทข้ามชาติต้องเสียภาษีมากขึ้น รวมทั้งการกำหนดเพดานอัตราภาษีบริษัทนิติบุคคลในแต่ละประเทศด้วยเพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่านโยบายภาษีของกลุ่มประเทศ G7 อาจส่งผลกระทบหรือเป็นโอกาสในการดึงดูดการลงทุนของประเทศไทยรวมทั้ง โครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ด้วย จึงให้มีการศึกษาทั้งในแง่ของผลกระทบและโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยจากนโยบายปฏิรูปภาษีของกลุ่ม G7 และให้นำมาเสนอ ครม.อีกครั้ง
ทั้งนี้ นายสุพัฒนพงษ์ ได้กล่าวเสริมข้อสั่งการของนายกฯในเรื่องนี้ว่าเมื่อมีการใช้นโยบายเรื่องนี้ในกลุ่มประเทศ G7 ประเทศต่างๆอีก 80-90% ทั่วโลก ก็จะใช้ตาม จึงเป็นเรื่องที่เราต้องเตรียมความพร้อม
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในปัจจุบันสิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจวันนี้ คือมีการประชุมหลายกลุ่มด้วยกันโดยเฉพาะกลุ่มเศรษฐกิจใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น G7 และหลายๆเวทีโลก ได้ประชุมหารือกันในเรื่องของเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งเราต้องเตรียมการให้พร้อมในการรับมือกับพันธสัญญากรณี ต่างๆ ที่มีอยู่เนื่องจากเราอยู่ในห่วงโซ่ของเขาทั้งหมด ทั้งการค้าการลงทุนต่างๆ มีกติกาต่างๆ ที่ออกมามากมาย เราต้องเตรียมความพร้อมเราต้องเข้มแข็งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถตัวเองไปด้วยให้สอดคล้องกับมาตรฐานต่างๆที่เราได้ออกมาของแต่ละประเทศด้วย.