จ่อเปิดโครงการ “จับคู่กู้เงิน” ต่อลมหายใจร้านอาหาร-ภัตตาคาร กรณีพิเศษ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จ่อเปิดโครงการ “จับคู่กู้เงิน” ต่อลมหายใจร้านอาหาร-ภัตตาคาร กรณีพิเศษ

Date Time: 6 มิ.ย. 2564 10:10 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • รัฐบาลโชว์ตัวเลขจ้างงานในระบบดีขึ้นต่อเนื่อง ดันต่อ SME เข้าถึงสภาพคล่อง “จุรินทร์” เตรียมเปิดโครงการ “จับคู่กู้เงิน” ประสานสถาบันการเงินปล่อยกู้ผู้ประกอบการร้านอาหารและภัตตาคาร

รัฐบาลโชว์ตัวเลขจ้างงานในระบบดีขึ้นต่อเนื่อง ดันต่อ SME เข้าถึงสภาพคล่อง “จุรินทร์” เตรียมเปิดโครงการ “จับคู่กู้เงิน” ประสานสถาบันการเงินปล่อยกู้ผู้ประกอบการร้านอาหารและภัตตาคาร

วันที่ 6 มิ.ย. 2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ว่า ที่ผ่านมาภาครัฐได้ออกมาตรการเพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ประกอบการในรูปแบบต่างๆ เพื่อประคับประคองธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้ โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งยอดการให้ความช่วยเหลือจากมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ยอด ณ วันที่ 31 พ.ค. มีที่อนุมัติแล้วทั้งสิ้น 20,839 ล้านบาท และในวันพรุ่งนี้ (7 มิ.ย.)

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเปิดโครงการ “จับคู่กู้เงิน” โดยเป็นการประสานสถาบันการเงินเพื่อปล่อยกู้สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและภัตตาคารที่มีอยู่กว่าแสนแห่งทั่วประเทศเป็นกรณีพิเศษ เช่น ดอกเบี้ยต่ำและเงื่อนไขพิเศษ เพื่อให้ร้านอาหารเข้าถึงสภาพคล่อง ต่อลมหายใจให้ดำเนินธุรกิจต่อไปโดยไม่ต้องปลดลูกจ้าง

น.ส.รัชดา ยังเปิดเผยถึงสถานการณ์การจ้างงานแรงงานในระบบด้วยว่า ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีขึ้น เห็นได้จากตัวเลขผู้ประกันตนที่ว่างงานในแต่ละเดือนลดลง ต่อเนื่องนับจากต้นปี 2564 กล่าวคือ เดือน ม.ค. มี 95,213 ราย, เม.ย. 49,277 ราย และ ณ วันที่ 19 พ.ค. 12,451 ราย ในขณะที่มีผู้ประกันตนรายใหม่เพิ่มขึ้น ดังนี้ เดือน ม.ค. 28,174 ราย เม.ย. 38,025 ราย และ ณ 19 พ.ค. 35,984 ราย นอกจากนี้ยังมีจำนวนผู้ประกันตนกลับเข้าสู่การจ้างงานในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ รวม 2.39 แสนราย ใกล้เคียงกับตัวเลขรวมของปีที่แล้วทั้งปี อยู่ที่ 2.49 แสนราย

ทั้งนี้ แม้จะเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นในการจ้างงานแรงงานในระบบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความเป็นห่วงต่อกลุ่มธุรกิจ SMEs และขนาดไมโคร ที่มีการจ้างงานนอกระบบอยู่มาก จึงได้สั่งการให้หน่วยงานรัฐออกมาตรการบรรเทาภาระหนี้ และร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคาร เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เข้าถึงสินเชื่อได้รวดเร็วขึ้น จะได้ยังคงธุรกิจและรักษาการจ้างงานในโอกาสเดียวกัน อีกทั้งมุ่งเน้นการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้สอดรับกับความต้องการของภาคธุรกิจควบคู่กันไป.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ