นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท., สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สมาคมธนาคารไทย เพื่อติดตามภาวะเศรษฐกิจและเสนอความคิดเห็นต่อรัฐบาล โดยการประชุมครั้งนี้ได้หารือใน 2 วาระสำคัญคือ ความคืบหน้าการตั้ง 4 ทีม เพื่อสนับสนุนภาครัฐในการบริหารวัคซีนให้คนไทย โดยปัจจุบันการทำงานคืบหน้าไปมาก เช่น ส.อ.ท.ก็เดินหน้าความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัด อาทิ จังหวัดสมุทรสาคร กระทรวงอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ผลักดันการฉีดวัคซีนให้กับแรงงานในภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังมีแนวโน้มปรับลดอัตราเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ลงอีก จากที่ได้ปรับลดเหลือเติบโต 1.5-3.0%
ส่วนความคืบหน้าแผนการบริหารวัคซีนของ ส.อ.ท.ที่ได้กำหนดเป้าหมายการช่วยให้ผู้ประกอบการและแรงงานในภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เข้าถึงวัคซีนนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก เนื่องจากที่ผ่านมา ส.อ.ท.ทั้ง ส่วนกลางและจังหวัดได้ร่วมหารือกับผู้ว่าราชการ 3 จังหวัดที่มีอุตสาหกรรมหนาแน่น ประกอบด้วย จังหวัดสมุทรสาคร ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา พบว่าภาคอุตสาหกรรมต้องการฉีดวัคซีนให้แรงงานของตนเองจำนวนมาก
“ส.อ.ท.ตั้งเป้าหมายให้สมุทรสาครเป็นโมเดลฉีดวัคซีนให้กับภาค อุตสาหกรรม โดยนิคมอุตสาหกรรมที่พร้อมแล้วคือ สินสาคร 10,000 คน และสมุทรสาคร รวม 20,000 คน ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครอยู่ระหว่างประสานขอวัคซีนกับส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการกระจายวัคซีนของรัฐบาล” ส่วนพื้นที่เป้าหมายต่อไปคือ ปทุมธานี ที่พร้อมฉีดคือ สวนอุตสาหกรรมบางกะดี ขณะที่อยุธยา โรงงานพร้อมฉีด อาทิ บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล (ประเทศไทย) จํากัด.