เคาะมาตรการส่งเสริมลงทุน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 64 พ้นวิกฤติโควิด

“บิ๊กตู่” จี้กระตุ้นลงทุนทั้งใน–นอกประเทศ พร้อมวางแนวทางหนุนรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนบอร์ดบีโอไอ ไฟเขียวมาตรการส่งเสริมลงทุนชุดใหญ่ เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 64 และกระตุ้นให้ลงทุนโดยเร็ว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ว่าที่ประชุมได้หารือว่าจะทำอย่างไรให้การลงทุนดีขึ้น ทั้งในช่วงนี้และอนาคต ซึ่งต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยใหม่ ให้ครอบคลุมทั้งเกษตรกรรมท่องเที่ยว ส่งออก และนำเข้า วันนี้ต้องการให้มีการส่งเสริมลงทุนในประเทศ และให้ไทยออกไปลงทุนต่างประเทศด้วย เพื่อให้เงินที่อยู่ในระบบออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น และทำให้ค่าเงินบาทอ่อน ภาคเอกชนต้องช่วยกัน ขณะนี้กำลังหามาตรการอยู่ โดยเฉพาะนำเข้าเครื่องจักร

“ส่วนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ต้องมีการพัฒนาเพื่อการลงทุน ทั้งประกอบภายในประเทศ การสร้างทั้งคัน การพัฒนาแบตเตอรี่ที่ให้เปลี่ยนได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จหลายชั่วโมง ซึ่งตั้งแต่ปีหน้า รถราชการถ้าจะซื้อหรือเช่า ต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนผู้มีรายได้น้อยจะใช้รถไฟฟ้าสำหรับระบบขนส่งมวลชน แต่ต้องผลิตในประเทศเท่านั้น”

ด้านนางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า บอร์ดบีโอไอ เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 64 สำหรับโครงการที่ลงทุนจริง 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ขยายเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) 10 จังหวัด และจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงอนุมัติให้เปิดเขตส่งเสริมกิจการพิเศษการแพทย์จีโนมิกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา (บางแสน) และเห็นชอบปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

สำหรับมาตรการกระตุ้นการลงทุนปีหน้าจะลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นเวลา 5 ปี เพิ่มเติมจากปกติ หากมีเงินลงทุนจริงอย่างน้อย 1,000 ล้านบาท ภายใน 12 เดือนหลังออกบัตรส่งเสริม ยื่นขอรับการส่งเสริมได้วันที่ 1 ม.ค.-30 ธ.ค.64 พร้อมขยายเวลารับคำขอส่งเสริมการลงทุนอีก 2 ปีถึงวันทำการสุดท้ายปี 65 สำหรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนใน SEZ 10 จังหวัด เช่น กาญจนบุรี เชียงราย ตราด ตาก นครพนม นราธิวาส นั้น ครอบคลุม 300 กิจการที่ให้การส่งเสริม แต่ถ้าอยู่ใน 14 กิจการเป้าหมาย ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี และลดหย่อน 50% อีก 5 ปี

“ที่ประชุมยังขยายเวลารับคำขอมาตรการส่งเสริมลงทุนใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ออกไปอีก 2 ปี โดยมี 2 มาตรการ คือ มาตรการส่งเสริมการลงทุนในยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของสงขลา คือ จะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา และมาตรการส่งเสริมการลงทุนภายใต้โครงการเมืองต้นแบบใน 4 พื้นที่ คือ อ.หนองจิก ปัตตานี อ.เบตง ยะลา อ.สุไหงโกลก นราธิวาส และ อ.จะนะ สงขลา ยื่นขอรับการส่งเสริมได้ถึงวันทำการสุดท้ายของปี 65”

ส่วนการเปิดเขตส่งเสริมการแพทย์จีโนมิกส์ เป็นพื้นที่เขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษ กำหนดให้ได้รับสิทธิประโยชน์ คือ หากเป็นกิจการได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5-8 ปีขึ้นไป จะ ได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เพิ่มเติมอีก 2 ปี แต่หากเป็นกิจการพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมายและกิจการสนับสนุน ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 10 ปีอยู่แล้ว จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มอีก 1 ปี และเห็นชอบมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแก่กิจการที่ดำเนินการอยู่เดิม โดยจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี ในสัดส่วน 50% ของเงินลงทุน ยื่นขอรับการส่งเสริมได้ถึงวันทำการสุดท้ายปี 65.