นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ตั้งแต่ 9-11 ธ.ค.พบว่ามีผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะกว่า 4.4 ล้านคน ต่ำกว่าประมาณการ 5.23% โดยมีปริมาณการจราจรรถเข้า-ออกกรุงเทพฯ 6 ล้านคัน ซึ่งสูงกว่าประมาณการ 41.65% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 5,573,695 คัน คิดเป็น 92.62% ส่วนการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจความพร้อม 25 จุด 20,901 คัน พบ ข้อบกพร่อง จำนวน 5 คันนั้น ได้สั่งการแก้ไขแล้ว ส่วนท่าเรือ/แพ 120 แห่ง ไม่พบข้อบกพร่อง ด้านการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่รถไฟ รถไฟฟ้าและผู้ประจำเรือ ไม่พบว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติด
ส่วนการเกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายทางถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคมพบว่ามีทั้งสิ้น 139 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บ 133 ราย บริเวณที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นทางตรง คิดเป็น 78.42% สาเหตุสำคัญเกิดจากการขับรถเร็วเกินกำหนด คิดเป็น 67.63% โดยรถที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือรถปิกอัพบรรทุก 4 ล้อ คิดเป็น 31.84% จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุ
สูงสุด คือ กรุงเทพฯ 15 ครั้ง และไม่มีอุบัติเหตุที่เกิดจากระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ทั้งรถโดยสารสาธารณะ เรือ รถไฟ และเครื่องบิน
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัดทั้งการดำเนินมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารไม่ให้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ควบคุมการสวมหน้ากากอนามัย สำหรับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน สามารถสอบถามข้อมูลด้านการเดินทาง แจ้งเหตุหรือข้อร้องเรียน ได้ที่ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม โทร.1356 ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ โทร.1584.