กดปุ่ม 6 โครงการยักษ์ 3.5 หมื่นล้าน บอร์ดบีโอไอดันลงทุนเต็มพิกัด

น.ส.ดวงใจ อัศวจิตนจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้เปิดส่งเสริมการลงทุนการผลิตยานพาหนะไฟฟ้า (อีวี) รอบใหม่ หลังจากหมดระยะเวลาการยื่นคำขอรับการส่งเสริมไปตั้งแต่ปี 2561 โดยรอบนี้ เปิดให้การส่งเสริมยานพาหนะไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถสามล้อ รถโดยสารและรถบรรทุก เรือที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จากเดิมที่มีการส่งเสริม เฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าและรถโดยสารไฟฟ้า ซึ่งเมื่อคิดจะส่งเสริมแล้วต้องเปิดทั้งหมด โดยสิทธิประโยชน์และเงื่อนไขที่ให้จะแตกต่างกันภายใต้หลักการ ให้เร่งการผลิตให้เร็วขึ้น และผลิตในปริมาณมากขึ้น

สำหรับตัวอย่างสิทธิประโยชน์ที่ให้ เช่น กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จะเน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่เป็นหลัก (BEV) แต่ให้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมควบคู่ไปด้วยกันได้ ในกรณีการลงทุนไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี และหากมีการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาก็สามารถได้รับสิทธิเพิ่ม แต่ถ้าลงทุนน้อยกว่า 5,000 ล้านบาท การผลิตรถยนต์ BEV ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี และได้รับสิทธิเพิ่มขึ้นหากดำเนินการได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

บอร์ดบีโอไอได้เห็นชอบการปรับปรุงประเภทกิจการต่อเรือหรือซ่อมเรือให้ครอบคลุมถึงการผลิตเรือที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2560-2562 มีโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ได้รับการส่งเสริมฯ รวม 26 โครงการ มูลค่าลงทุน 78,099 ล้านบาท โดยมี 7 โครงการ ที่ผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์แล้ว เช่นกิจการ HEV (Hybrid Electric Vehicles) 3 ราย ได้แก่ นิสสัน ฮอนด้า และโตโยต้า กิจการ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicles) 2 ราย ได้แก่ เมอร์เซเดส เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู

“บอร์ดบีโอไอได้เห็นชอบให้ส่งเสริมการลงทุน 6 โครงการใหญ่ รวมเงินลงทุน 35,687 ล้านบาท ในกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า กิจการผลิตไฟฟ้า กิจการผลิตน้ำตาลและน้ำเชื่อม ส่วนภาวะการส่งเสริมการลงทุน 9 เดือนของปีนี้ มียอดขอรับส่งเสริม 1,098 โครงการ เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 1,088 โครงการ โดยมีมูลค่าเงินลงทุน 223,720 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15% ที่มีมูลค่า 262,470 ล้านบาท ซึ่งอุตสาหกรรมการแพทย์มีโครงการและมูลค่าขอรับส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด คือมี 65 โครงการ เพิ่มขึ้น 132% มีมูลค่า 14,710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในภูมิภาค”.