จัดงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 56 เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในหลายประเทศทั่วโลก ขณะนี้กำลังพบกับปัญหาใหญ่ที่สุดคือการระบาดของไวรัสโควิด-19 ปัจจัยนี้คุกคามและส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเป็นอย่างมากที่สุดด้วยไม่แพ้กัน

แล้วทิศทางท่องเที่ยวไทยจะก้าวต่อไปได้อย่างไร? ในขณะที่ประเทศไทยยังต้องพึ่งพิงรายได้หลักมาจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งหนึ่งในแผนทางรอดคือ นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไม่เป็นไร แผนสำรองคือ “ไทยเที่ยวไทย” เป็นแผนส่งเสริมให้คนไทยเดิน ทางท่องเที่ยวภายในประเทศกันเอง เป็นสูตรยาแรงชั้นดีที่รัฐบาลใช้ได้ผลมาตลอด และเชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นรายได้รวมของการท่องเที่ยวภายในประเทศขึ้นมาทดแทนตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป

บริษัท พี.เค.เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด จึงประกาศจัดงาน “ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 56” ขึ้นมา ซึ่งกำลังจัดอยู่จนถึง 6 ก.ย.63 ณ ศูนย์ไบเทค บางนา เพื่อช่วยสนับสนุนแผนไทยเที่ยวไทย ช่วยส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศให้เกิดเงินสะพัดทั่วไทย รวมถึงช่วยกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในเมืองไทยมากยิ่งขึ้น

นายกฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค. เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 56 เป็นมหกรรมแสดงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศที่จัดขึ้นต่อเนื่องมานานกว่า 19 ปี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการท่องเที่ยวไทย เพราะมียอดผู้แสดงงานและยอดผู้เข้าชมงานเข้าร่วมงานจำนวนมาก ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด #เที่ยวอุ่นใจสบายกระเป๋า #เราไปเที่ยวกัน #คิดไม่ออกไปไหนดี มีภาครัฐและเอกชนมาร่วมงานครบครัน ทั้งสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โรงแรม รีสอร์ต สายการบินในประเทศ รถเช่า เรือท่องเที่ยว ภัตตาคาร และสถานที่ท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ๆ รวมทั้งหมด 650 บูธ คาดว่าจะมีเงินสะพัดได้ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท

ไฮไลต์ของงานคือพาวิเลียนขนาดใหญ่ที่มาจัดแสดง แบ่งเป็นโซนต่างๆภายในงาน อาทิ โซนคิดถึง...เมืองไทย แล้วไปให้ถึง จากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภาคเหนือ โซนชีพจรลงเซาท์ จาก ททท. ภาคใต้ โซนการท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดน่าน โซนการท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดเพชรบุรี นอกจากนั้น ยังแบ่งเป็นพื้นที่แสดงสินค้าท่องเที่ยวทั่วไป เช่น โซนโรงแรมรีสอร์ต โซนรถเช่าสายการบิน และเรือสำราญ โซนอุปกรณ์เดินทาง โซนร้านอาหารและของอร่อยทั่วไทย จัดเต็มพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร

ในด้านโปรโมชัน กระตุ้นกำลังซื้อด้วยโปรโมชันร่วมกับบัตรเครดิตในเครือธนาคารกรุงศรี บัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ และบัตรเครดิตธนาคารซิตี้แบงก์ นำข้อเสนอดีๆสุดคุ้ม 4 ต่อ มอบให้สมาชิกผู้ถือบัตรที่มาช็อปภายในงานไทยเที่ยวไทยโดยเฉพาะ ทั้งส่วนลดเพิ่ม 15% จากโรงแรมที่ร่วมรายการ ผ่อน 0% ช็อปผ่านบัตรแลกรับทันทีกับบัตรกำนัลร้านสตาร์บัคส์ กระเป๋าเดินทาง และพิเศษ Top Spender Rewards รางวัลสำหรับผู้ซื้อสินค้าในราคาสูงสุดประจำวัน รวมทั้งช็อปผ่านบัตรฯ ครบทุก 1,000 บาท รับคูปองชิงโชค 1 ใบ ลุ้นรางวัลใหญ่จากบัตรเครดิต เป็นต้น เที่ยวอุ่นใจภายในงาน

ด้วยมาตรการป้องกันโควิด-19 ตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข โดยร่วมมือกับสถานที่จัดงาน ไบเทค บางนา อย่างรัดกุม เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิที่จุดทางเข้าฮอลล์และทางเข้างานเพื่อการคัดกรองที่ละเอียด การลงทะเบียนด้วยแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” เพื่อเช็กจำนวนคนไม่ให้แออัด การบริการเจลแอลกอลฮอลล์ล้างมือ โดยไม่ต้องใช้ร่างกายกดโดยเป็นเซ็นเซอร์อัตโนมัติลดการสัมผัส เพื่อการป้องกันที่มีประสิทธิภาพและความสะดวกของลูกค้า การลดความแออัดรักษาระยะห่าง 2-3 เมตร มีสัญลักษณ์กำหนดจุดที่พื้นอย่างชัดเจน และการทำความสะอาดทุกชั่วโมง รวมถึงต้องให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนภายในงานใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เป็นต้น

นายกฤตย์กล่าวว่า แผนไทยเที่ยวไทยมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสูง เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและมีขุมทรัพย์ด้านการท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งภูเขา ทะเล ฯลฯ แต่ต้องสร้างการประชาสัมพันธ์รับรู้ กระตุ้นการตลาดผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงการจัดงานไทยเที่ยวไทยก็มีบทบาทสนับสนุนกิจกรรมด้านนี้มาตลอด

ถ้าภาครัฐและสมาคมเอกชนที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกันมากขึ้น พลิกวิกฤติโควิด-19 ให้เป็นโอกาสในการปรับเปลี่ยนและยกเครื่องกลยุทธ์การดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยปรับเปลี่ยนจากการท่องเที่ยวแบบที่เน้นเชิงปริมาณ มาเป็นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ เช่น การท่องเที่ยวสีเขียว ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า เกิดการอนุรักษ์และยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวไทยที่ยั่งยืน!!

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th