ศุลกากร เผย มิ.ย.63 จับของผิดกฎหมายยึดได้รวมกว่า 122 ล้านจาก 1,714 คดี

กรมศุลกากร เผยเดือน มิ.ย.63 จับสินค้าลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย 1,714 คดี รวมมูลค่า 122 ล้านบาท ทั้งยาเสพติดส่งจากนอกผ่านไปรษณีย์ น้ำมันดีเซลเถื่อน และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 20 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า สำหรับเดือนมิ.ย. 2563 กรมศุลกากรตรวจพบการกระทำผิดตามกฎหมายศุลกากรหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับศุลกากร จำนวน 1,714 คดี คิดเป็นมูลค่ารวม 122 ล้านบาท ทั้งนี้ กรมศุลกากรตรวจพบการกระทำความผิดในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนต.ค. 62-มิ.ย.63 ทั้งสิ้น 19,287 คดี คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,486 ล้านบาท

โฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่อว่า สำหรับสินค้าที่จับกุมได้มากในช่วงเดือนมิ.ย.2563 ได้แก่ 1.ยาเสพติดให้โทษประเภทเอ็กซ์ตาซี่ ที่ถูกส่งมาทางไปรษณีย์จากต่างประเทศ โดยกรมศุลกากรจับกุมได้ จำนวน 25,885 เม็ด คิดเป็นมูลค่าประมาณ 20.7 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม สถิติการตรวจยึดยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนต.ค.62-มิ.ย.63 มีจำนวนคดีทั้งสิ้น 257 คดี 2. น้ำมันดีเซล ที่ไม่มีหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรมาแสดงกับเจ้าหน้าที่กรมศุล จำนวน 98,000 ลิตร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท โดยสามารถตรวจพบได้ที่บริเวณถนนพระรามที่ 2 กม. 34-35 ต.บางกระเจ้า อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ริมถนนสายธนบุรี-ปากท่อ ต.บางแก้ว อ.เมืองสมุทรสงครามจ.สมุทรสงคราม เป็นต้น

นายชัยยุทธ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ สถิติการจับกุมน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือน ต.ค.62-มิ.ย. 63 ได้แก่ น้ำมันดีเซล จำนวน 267 คดี ปริมาณ 360,000 ลิตร มูลค่ากว่า 8.3 ล้านบาท น้ำมันเบนซิน จำนวน 333 คดี ปริมาณ 150,000 ลิตร มูลค่ากว่า 3.6 ล้านบาทและ 3. บุหรี่ไฟฟ้า ที่ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร บริเวณแม่น้ำโก-ลก จำนวน 50 ชุด และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 2,150 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 500,000 บาท ส่วนสถิติการจับกุมบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือน ต.ค. 62 – มิ.ย. 63 มีจำนวนคดี ได้แก่ บุหรี่ จำนวน 670 คดี คิดเป็นมูลค่ารวม 134.9 ล้านบาท บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ จำนวน 573 คดี คิดเป็นมูลค่ารวม 11.1 ล้านบาท

"ที่ผ่านมานายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามการลักลอบและหลีกเลี่ยงนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากรให้ถูกต้อง เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดพร้อมหน่วยปฏิบัติการวางแผนตรวจค้นจับกุมอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาโดยตลอด" โฆษกกรมศุลกากร กล่าว.